ลำดับเหตุการณ์ เหตุการณ์ กรณี จ่าสิบเอก จักรพันธ์ ถมมา สังกัด กองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ได้นำอาวุธไล่ทำร้ายเจ้าหน้าที่และประชาชนในที่สาธารณะในจังหวัดนครราชสีมา
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 9 ก.พ.63 พ.ต.ท.มงคล คุปติศิริรัตน์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา รับแจ้งเหตุ จ.ส.อ จักรพันธ์ ถมมา อายุ 31 ปี นายทหารกองพันสรรพาวุธที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 (บชร.2 ) ใช้อาวุธปืนพกสั้นยิงพันเอกอนันต์ฐโรจน์ กระแส อายุ 48 ปี สังกัด ผบ.กองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาตัวเองและนางอนงค์ มิตรจันทร์ อายุ 65 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ มีศักดิ์เป็นแม่ยายเสียชีวิตคาที่ รวมทั้งนายพิทยา แก้วพรม ลูกน้องนางอนงค์ ฯ ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 187 บ้านถนนหัก หมู่ 3 ต.หนองจะบก อ.เมือง จ.นครราชสีมา สาเหตุ จ.ส.อ จักรพันธ์ ฯ อ้างได้ซื้อบ้านพักอาศัยซึ่งมีนางอนงค์ ฯ เป็นเจ้าของโครงการ ฯ และนายพิทยา ฯ เป็นนายหน้าแต่ไม่ยอมให้เงินทอนตามที่ตกลงกันไว้ จึงนัดพูดคุยตกลงปัญหา โดยมี พ.อ อนันต์ฐโรจน์ ฯ ผู้บังคับบัญชาเป็นคนกลาง นางอนงค์ ฯ อ้างได้ให้เงินทอนกับนายพิทยา ทั้งสองคนได้บ่ายเบี่ยงไปมาทำให้ จ.ส.อ จักรพงษ์ ฯ ใช้อาวุธปืนยิงทั้ง 3 คน หลังประกอบเหตุได้ขับรถเก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ มุ่งหน้าไปกองพันสรรพาวุธที่ 22 ตั้งอยู่ในค่ายสุรธรรมพิทักษ์ เมื่อเจอนายทหารเวรดูแลประตูทางเข้าค่าย ฯ คนร้ายได้วางกลอุบายขออาวุธปืนเอสเคไปให้เจ้านาย เมื่อได้อาวุธปืนสงครามได้รีบมุ่งหน้าไปกองพัน ฯ พบพบทหารโชคชัย มูลจันทา นายทหารเวรรักษาการคลังอาวุธปืน จึงใช้อาวุธปืนลูกซองยิงเปิดทางเข้าไปโจรกรรมปืนเล็กยาวอัตโนมัติ เอชเค 3 กระบอก ปืนกลเอ็ม 60 จำนวน 3 กระบอก เป็นเหตุให้พลทหารโชคชัย ได้รับบาดเจ็บ เสียงปืนและเสียงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือได้สร้างความแตกตื่นให้กับทหารที่อยู่ในกองพัน ระหว่างนั้นพลทหารเมธา เลิศศิริ วิ่งออกมาดูเสียงปืน คนร้ายใช้อาวุธปืนเอชเคยิงเสียชีวิตและขนอาวุธปืนใส่รถเก๋งส่วนตัวขับไปเปลี่ยนรถฮัมวี่ของทหาร ทะเบียนกงจักร 2563 แล้วขับไปคลังกระสุนโจรกรรมเครื่องกระสุน 736 นัด ชุดประคองสายกระสุนเอ็ม 60 รวม 3 สาย
*ในขณะขับรถหลบหนีออกทางหน้าค่ายฯ ซึ่งเป็นทางออกไปถนนทางหลวง 304 ราชสีมา-กบินทร์บุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.โพธิ์กลาง รุดไปมาทันและขับรถจอดขวางทาง คนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงเปิดทางหลบหนี เปลี่ยนเส้นทางออกด้านหลังค่าย ฯ ไปทางวัดป่าศรัทธารวม ศูนย์วิทยุสื่อสารไชยณรงค์ ดูแลรับผิดชอบสถานีตำรวจ 51 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ได้วิทยุสื่อสารให้ช่วยสกัดจับ ด.ต.ชัชวาลย์ แท่งทอง ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.เมือง ขับรถตราโล่มาทันที่บริเวณบ้านหนองปรือ หมู่ 1 ต.โพธิ์กลาง ได้พยายามขับรถขวางเส้นทางหลบหนีคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงถล่มแบบหูดับตับไหม้ทำให้ ดต.ชัชวาลย์ เสียชีวิตคาพวงมาลัยและนายจิรวัฒน์ รัดกลาง อาสาสมัครตำรวจบ้านเสียชีวิตในขณะพยายามจะเปิดประตูหลบหนีและเอาวิทยุสื่อสารไปด้วย วิถีกระสุนพุ่งไปถูกนายทัศนะ หริรักษ์ ด.ช.รัชชานนท์ กาญจนเมธ นักเรียนชั้น ม. 2 โรงเรียนบุญวัฒนา ที่กำลังขับจักรยานยนต์กลับบ้านพัก นายทัศนะ หริรักษ์ นางสาวอาริยา กลีบเมฆ ผู้ขับรถเก๋งจนเสียหลักตกข้างทาง รวมทั้งรถฟอร์จูนเนอร์ เลขทะเบียน กร 7538 นครศรีธรรมราช ทำให้ ร.อ.ศิริวิวัฒน์ แสงประสิทธิ์ หรือผู้กองหมี ผบ.ร้อย.ทพ.4914 เดินทางมาพร้อมนางพัชรา จันทร์เพ็งและนางนริศรา โชติกลาง เดินทางร่วมงานเลี้ยงรุ่นเสียชีวิตคารถรวม 3 ศพ ในสภาพสยดสยอง ระหว่างนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนับสิบนาย เดินทางมาปิดล้อม คนร้ายมีความเชี่ยวชาญการใช้อาวุธปืนสงคราม ดีกรีเป็นแชมป์อาเซียน อาวุธที่ใช้มีประสิทธิภาพรุนแรงกว่า เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่มีปืนพกสั้น ยิงไปล่าถอยไปเมื่อได้ยินเสียงปืนใกล้เข้ามา ใช้เวลาปะทะนานกว่า 1 ชั่วโมง
*คนร้ายสามารถขับรถหลบหนีเข้าไปในตัวเมือง นครราชสีมา ใช้เส้นทางถนนราชสีมา-โชคชัย ผ่านทางแยกหัวทะเล เลี้ยวเข้าเขตเทศบาลนคร (ทน.) ผ่านเรือนจำกลางนครราชสีมา ตลอดทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุสื่อสารแจ้งความเคลื่อนไหวตลอดและกำชับห้ามใช้ความรุนแรง เกรงจะเกิดอันตรายกับประชาชน โดยเชื่อคนร้ายจะแล่นหนีออกนอกตัวเมือง คนร้ายใช้เส้นทางผ่านไปทางแยกประตูพลแสน มุ่งหน้าไปศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. โดยกราดยิงใส่ประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาและอยู่บริเวณใกล้เคียงรวมทั้งพนักงานรักษาความปลอดภัยอย่างบ้าคลั่งรวมทั้งยิงใส่ถังก๊าซหุงต้ม หวังให้เกิดระเบิดเป็นเปลวเพลิงลุกไหม้ ต่อมาได้หลบหนีเข้าไปในศูนย์การค้า ฯ แล้วยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เสียงปืนดังสนั่นนานหลายนาที สร้างความแตกตื่นให้กับประชาชนกว่าพันคนที่อยู่ภายในศูนย์ ฯ ต้องพากันวิ่งหนีตายหาที่หลบซ่อน อาสาสมัครกู้ภัยสว่างเมตตาโคราชและฮุก.31 นครราชสีมา เร่งนำผู้บาดเจ็บและผู้ที่ติดอยู่ในห้างออกมา แต่คนร้ายยังกราดยิงตลอด เจ้าหน้าที่ต้องล่าถอยออกมาด้านนอก เพื่อหาทางไปช่วยเหลือผู้ติดค้างจำนวนมาก
* เวลา 18.30 น. จ.ส.อ จักรพันธ์ อัดคลิปโพสต์เฟซบุ๊กห้องส่วนตัว “เมื่อยมือแล้วหลังกราดยิงประชาชนนับสิบราย” “เหนื่อยเหลือเกิน” “มันตายมั้ย 3 คนนั้น” “ซวยละเป็นตะคริว” “พวกมึงอยากลองของใช่มั้ย” “ยังไงก็หนีความตายไม่พ้น” “3 ศพล้างแค้น นอกนั้นป้องกันตัว” เจ้าหน้าที่ต้องปิดกั้นเส้นทางทางจราจรโดยสิ้นเชิง โดยนำรถดับเพลิง รถพยาบาลมาจอดเตรียมพร้อมเผชิญเหตุร้าย เวลา 19.00 น. พลโทธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 นายทหารในสังกัด นายจรัสชัย โชคเรืองสกุล รอง ผวจ.นครราชสีมา 20.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง จ.ชัยภูมิ รับนางจรัสศรี ฯ ผู้เป็นแม่ของ จ.ส.อ.จักรพันธ์ มาจากจังหวัดชัยภูมิ หวังมาเจรจาเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว แต่คนร้ายไม่ยอมพูดคุยด้วย 21.00 น. พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. พล.ต.อ จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.และคณะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข พร้อม นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เวลา 21.30 น. ชุดอรินทราช 26 กองปราบปราม มาสมทบกำลังวางแผนเข้าไปช่วยเหลือผู้ติดอยู่ในศูนย์การค้าฯ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา เดินทางกลับมาจาก จ.เชียงใหม่ มาร่วมบัญชาการ แต่การปฏิบัติหน้าที่พบอุปสรรค เนื่องจากประชาชนอ้างเป็นจิตอาสาได้มาไลฟ์สดจำนวนมาก ซึ่งทำให้คนร้ายรู้ความเคลื่อนไหว ร้องขอให้งดไลฟ์สด การสื่อสารทางวิทยุต้องยกเลิกช่องเรียกขานเดิมและกำหนดช่องความถี่ใหม่ คนร้ายได้สแกนความถี่จนสามารถดักฟังการทำงาน เจ้าหน้าที่ก็เปลี่ยนแผนตลอด ระหว่างนี้เกิดความสับสนเกี่ยวกับที่ซ่อนตัวของคนร้าย ซึ่งเป็นศูนย์การค้าที่มีพื้นที่ใช้สอย 2.4 แสนตารางเมตร และคนร้ายจับประชาชนเป็นตัวประกัน แต่เจ้าหน้าที่ก็พยายามหาทางช่วยเหลือทยอยนำผู้ที่ติดค้างออกมาได้อย่างต่อเนื่อง คงเหลือตกค้างที่ชั้นแอลจี บริเวณฟู๊ดแลนด์ซุปเปอร์มาร์เก็ต ที่คนร้ายเข้าไปหลบซ่อน ท่ามกลางเสียงร้องขอความช่วยเหลือของผู้ที่ติดค้างทางโลกโซเชียลและโทรศัพท์ออกมาแจ้งให้ญาติ เพื่อนมาช่วยเหลือตลอดเวลา ด้านนอกพบบรรดาญาติพากันสอบถามด้วยความเป็นห่วง
* เวลา 03.00 น. ชุดอินทราชา 26 จำนวน 20 นาย เข้าไปปฏิบัติหาทางช่วยเหลือประชาชนที่ติดค้าง โดยหลีกเลี่ยงการปะทะเกรงลูกหลงจะทำให้สูญเสีย จ.ส.อ.จักรพันธ์ ฯ คนร้าย ได้ใจและดักซุ่มอยู่ เมื่อเห็นกำลังเจ้าหน้าที่จึงเกิดการยิงปะทะกันทำให้เจ้าหน้าที่ถูกยิงด้วยปืนเอ็ม 60 คือ ส.ต.ท.กฤษฎา การุณ และ ร.ต.อ.ตระกูล ธาอาสา ผบ.หมวด (สบ 1)กองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 กก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.สปพ.ถูกยิงที่หน้าอก เสียชีวิตและส.ต.ต.รัฐธรรมนูญ นาทอง ถูกยิงที่ขาได้รับบาดเจ็บ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องล่าถอยออกมาและกั้นแนวเขตให้สื่อมวลชนออกมาอยู่ห่างศูนย์การค้า ฯ ด้านทิศใต้ ซึ่งมีอาคารพาณิชย์เป็นแนวบังวิถีกระสุน ช่วงเวลาก่อนรุ่งสางมีเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะ จนกระทั่งเวลา 08.50 น. เสียงปืนดังขึ้นนานกว่าปกติ จากนั้นมีการยืนยัน คนร้ายถูกวิสามัญเสียชีวิตที่ชั้นแอลจี ในห้องเย็นของฟู๊ดแลนด์ ฯ
* สรุปมีผู้เสียชีวิต 27 ราย ส่วนใหญ่วิถีกระสุนพุ่งเข้าถูกศีรษะ ทราบรายชื่อเบื้องต้นเสียชีวตที่วัดป่าศรัทธารวม ต.หัวทะเล อ.เมือง ฯ จำนวน 9 ราย คือ 1.น.ส.อาริยา กลีบเมฆ อายุ 40 ปี 2.ภญ.นริศรา โชติกลาง อายุ 52 ปี 3.นางชญาภา แสงครบุรี อายุ 57 ปี 4.นายจิรวัฒน์ รัดกลาง อายุ 41 ปี 5.ด.ต.ชัชวาล แท่งทอง อายุ 50 ปี 6.นายทัศนะ หริรักษ์ อายุ 35 ปี 7.ร.อ.ศิริวัฒน์ แสงประสิทธิ์ อายุ 55 ปี 8.ด.ช.รัชชานนท์ กาญจนเมธี อายุ 13 ปี 9.นางพัชรา จันทร์เพ็ง อายุ 54 ปี เสียชีวิตที่บ้านถนนหัก ต.หนองจะบก อ.เมือง ฯ จำนวน 3 ราย 1.นางอนงค์ มิตรจันทร์ อายุ 62 ปี 2.พันเอกอนันต์ฐโรจน์ กระแสร์ อายุ 48 ปี 3.พลทหารเมธา เลิศศิริ อายุ 23 ปี เสียชีวิตที่ศูนย์การค้าเทอมิเนล 21 โคราช 15 ราย 1.นายวันชัย เวชวรรณ์ อายุ 41 ปี 2.นายเอกวิน ยืนทน อายุ 18 ปี 3.ส.ต.ท.กฤษฎา การุณ 4.ร.ต.อ.ตระกูล ธาอาสา 5.นายจักรพันธ์ ชิพิมาย อายุ 44 ปี 6.นายศรัณยพงศ์ พงษ์ชอุ่มดี อายุ 55 ปี 7.นายอำนาจ บุญเอื้อ อายุ 47 ปี 8.หญิงไทย อายุประมาณ 50 ปี 9.ชายไทยอายุประมาณ 20 ปี 10.ชายไทยไม่ทราบชื่ออายุประมาณ 25 ปี 11.จ.ส.อ จักรพงษ์ ถมยา คนร้าย ส่วนอีก 4 ราย เกิดจากการเข้าไปยึดพื้นที่ในช่วงเวลาเช้าของวันที่ 9 กุมภาพันธ์ อยู่ระหว่างประสานญาติให้มายืนยันอีกครั้ง ส่วนผู้บาดเจ็บบาดเจ็บ 57 ราย กลับบ้าน 25 ราย นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 32 ราย ผ่าตัด 12 ราย ใช้เลือด 64 ยูนิต เพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บผ่าตัดสมอง 2 ราย ตับ 1 ราย ลำไส้ใหญ่ 1 ราย สมองและทรวงอก 1 ราย
*ในขณะขับรถหลบหนีออกทางหน้าค่ายฯ ซึ่งเป็นทางออกไปถนนทางหลวง 304 ราชสีมา-กบินทร์บุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.โพธิ์กลาง รุดไปมาทันและขับรถจอดขวางทาง คนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงเปิดทางหลบหนี เปลี่ยนเส้นทางออกด้านหลังค่าย ฯ ไปทางวัดป่าศรัทธารวม ศูนย์วิทยุสื่อสารไชยณรงค์ ดูแลรับผิดชอบสถานีตำรวจ 51 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ได้วิทยุสื่อสารให้ช่วยสกัดจับ ด.ต.ชัชวาลย์ แท่งทอง ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.เมือง ขับรถตราโล่มาทันที่บริเวณบ้านหนองปรือ หมู่ 1 ต.โพธิ์กลาง ได้พยายามขับรถขวางเส้นทางหลบหนีคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงถล่มแบบหูดับตับไหม้ทำให้ ดต.ชัชวาลย์ เสียชีวิตคาพวงมาลัยและนายจิรวัฒน์ รัดกลาง อาสาสมัครตำรวจบ้านเสียชีวิตในขณะพยายามจะเปิดประตูหลบหนีและเอาวิทยุสื่อสารไปด้วย วิถีกระสุนพุ่งไปถูกนายทัศนะ หริรักษ์ ด.ช.รัชชานนท์ กาญจนเมธ นักเรียนชั้น ม. 2 โรงเรียนบุญวัฒนา ที่กำลังขับจักรยานยนต์กลับบ้านพัก นายทัศนะ หริรักษ์ นางสาวอาริยา กลีบเมฆ ผู้ขับรถเก๋งจนเสียหลักตกข้างทาง รวมทั้งรถฟอร์จูนเนอร์ เลขทะเบียน กร 7538 นครศรีธรรมราช ทำให้ ร.อ.ศิริวิวัฒน์ แสงประสิทธิ์ หรือผู้กองหมี ผบ.ร้อย.ทพ.4914 เดินทางมาพร้อมนางพัชรา จันทร์เพ็งและนางนริศรา โชติกลาง เดินทางร่วมงานเลี้ยงรุ่นเสียชีวิตคารถรวม 3 ศพ ในสภาพสยดสยอง ระหว่างนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนับสิบนาย เดินทางมาปิดล้อม คนร้ายมีความเชี่ยวชาญการใช้อาวุธปืนสงคราม ดีกรีเป็นแชมป์อาเซียน อาวุธที่ใช้มีประสิทธิภาพรุนแรงกว่า เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่มีปืนพกสั้น ยิงไปล่าถอยไปเมื่อได้ยินเสียงปืนใกล้เข้ามา ใช้เวลาปะทะนานกว่า 1 ชั่วโมง
*คนร้ายสามารถขับรถหลบหนีเข้าไปในตัวเมือง นครราชสีมา ใช้เส้นทางถนนราชสีมา-โชคชัย ผ่านทางแยกหัวทะเล เลี้ยวเข้าเขตเทศบาลนคร (ทน.) ผ่านเรือนจำกลางนครราชสีมา ตลอดทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุสื่อสารแจ้งความเคลื่อนไหวตลอดและกำชับห้ามใช้ความรุนแรง เกรงจะเกิดอันตรายกับประชาชน โดยเชื่อคนร้ายจะแล่นหนีออกนอกตัวเมือง คนร้ายใช้เส้นทางผ่านไปทางแยกประตูพลแสน มุ่งหน้าไปศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. โดยกราดยิงใส่ประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาและอยู่บริเวณใกล้เคียงรวมทั้งพนักงานรักษาความปลอดภัยอย่างบ้าคลั่งรวมทั้งยิงใส่ถังก๊าซหุงต้ม หวังให้เกิดระเบิดเป็นเปลวเพลิงลุกไหม้ ต่อมาได้หลบหนีเข้าไปในศูนย์การค้า ฯ แล้วยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เสียงปืนดังสนั่นนานหลายนาที สร้างความแตกตื่นให้กับประชาชนกว่าพันคนที่อยู่ภายในศูนย์ ฯ ต้องพากันวิ่งหนีตายหาที่หลบซ่อน อาสาสมัครกู้ภัยสว่างเมตตาโคราชและฮุก.31 นครราชสีมา เร่งนำผู้บาดเจ็บและผู้ที่ติดอยู่ในห้างออกมา แต่คนร้ายยังกราดยิงตลอด เจ้าหน้าที่ต้องล่าถอยออกมาด้านนอก เพื่อหาทางไปช่วยเหลือผู้ติดค้างจำนวนมาก
* เวลา 18.30 น. จ.ส.อ จักรพันธ์ อัดคลิปโพสต์เฟซบุ๊กห้องส่วนตัว “เมื่อยมือแล้วหลังกราดยิงประชาชนนับสิบราย” “เหนื่อยเหลือเกิน” “มันตายมั้ย 3 คนนั้น” “ซวยละเป็นตะคริว” “พวกมึงอยากลองของใช่มั้ย” “ยังไงก็หนีความตายไม่พ้น” “3 ศพล้างแค้น นอกนั้นป้องกันตัว” เจ้าหน้าที่ต้องปิดกั้นเส้นทางทางจราจรโดยสิ้นเชิง โดยนำรถดับเพลิง รถพยาบาลมาจอดเตรียมพร้อมเผชิญเหตุร้าย เวลา 19.00 น. พลโทธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 นายทหารในสังกัด นายจรัสชัย โชคเรืองสกุล รอง ผวจ.นครราชสีมา 20.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง จ.ชัยภูมิ รับนางจรัสศรี ฯ ผู้เป็นแม่ของ จ.ส.อ.จักรพันธ์ มาจากจังหวัดชัยภูมิ หวังมาเจรจาเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว แต่คนร้ายไม่ยอมพูดคุยด้วย 21.00 น. พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. พล.ต.อ จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.และคณะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข พร้อม นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เวลา 21.30 น. ชุดอรินทราช 26 กองปราบปราม มาสมทบกำลังวางแผนเข้าไปช่วยเหลือผู้ติดอยู่ในศูนย์การค้าฯ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา เดินทางกลับมาจาก จ.เชียงใหม่ มาร่วมบัญชาการ แต่การปฏิบัติหน้าที่พบอุปสรรค เนื่องจากประชาชนอ้างเป็นจิตอาสาได้มาไลฟ์สดจำนวนมาก ซึ่งทำให้คนร้ายรู้ความเคลื่อนไหว ร้องขอให้งดไลฟ์สด การสื่อสารทางวิทยุต้องยกเลิกช่องเรียกขานเดิมและกำหนดช่องความถี่ใหม่ คนร้ายได้สแกนความถี่จนสามารถดักฟังการทำงาน เจ้าหน้าที่ก็เปลี่ยนแผนตลอด ระหว่างนี้เกิดความสับสนเกี่ยวกับที่ซ่อนตัวของคนร้าย ซึ่งเป็นศูนย์การค้าที่มีพื้นที่ใช้สอย 2.4 แสนตารางเมตร และคนร้ายจับประชาชนเป็นตัวประกัน แต่เจ้าหน้าที่ก็พยายามหาทางช่วยเหลือทยอยนำผู้ที่ติดค้างออกมาได้อย่างต่อเนื่อง คงเหลือตกค้างที่ชั้นแอลจี บริเวณฟู๊ดแลนด์ซุปเปอร์มาร์เก็ต ที่คนร้ายเข้าไปหลบซ่อน ท่ามกลางเสียงร้องขอความช่วยเหลือของผู้ที่ติดค้างทางโลกโซเชียลและโทรศัพท์ออกมาแจ้งให้ญาติ เพื่อนมาช่วยเหลือตลอดเวลา ด้านนอกพบบรรดาญาติพากันสอบถามด้วยความเป็นห่วง
* เวลา 03.00 น. ชุดอินทราชา 26 จำนวน 20 นาย เข้าไปปฏิบัติหาทางช่วยเหลือประชาชนที่ติดค้าง โดยหลีกเลี่ยงการปะทะเกรงลูกหลงจะทำให้สูญเสีย จ.ส.อ.จักรพันธ์ ฯ คนร้าย ได้ใจและดักซุ่มอยู่ เมื่อเห็นกำลังเจ้าหน้าที่จึงเกิดการยิงปะทะกันทำให้เจ้าหน้าที่ถูกยิงด้วยปืนเอ็ม 60 คือ ส.ต.ท.กฤษฎา การุณ และ ร.ต.อ.ตระกูล ธาอาสา ผบ.หมวด (สบ 1)กองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 กก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.สปพ.ถูกยิงที่หน้าอก เสียชีวิตและส.ต.ต.รัฐธรรมนูญ นาทอง ถูกยิงที่ขาได้รับบาดเจ็บ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องล่าถอยออกมาและกั้นแนวเขตให้สื่อมวลชนออกมาอยู่ห่างศูนย์การค้า ฯ ด้านทิศใต้ ซึ่งมีอาคารพาณิชย์เป็นแนวบังวิถีกระสุน ช่วงเวลาก่อนรุ่งสางมีเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะ จนกระทั่งเวลา 08.50 น. เสียงปืนดังขึ้นนานกว่าปกติ จากนั้นมีการยืนยัน คนร้ายถูกวิสามัญเสียชีวิตที่ชั้นแอลจี ในห้องเย็นของฟู๊ดแลนด์ ฯ
* สรุปมีผู้เสียชีวิต 27 ราย ส่วนใหญ่วิถีกระสุนพุ่งเข้าถูกศีรษะ ทราบรายชื่อเบื้องต้นเสียชีวตที่วัดป่าศรัทธารวม ต.หัวทะเล อ.เมือง ฯ จำนวน 9 ราย คือ 1.น.ส.อาริยา กลีบเมฆ อายุ 40 ปี 2.ภญ.นริศรา โชติกลาง อายุ 52 ปี 3.นางชญาภา แสงครบุรี อายุ 57 ปี 4.นายจิรวัฒน์ รัดกลาง อายุ 41 ปี 5.ด.ต.ชัชวาล แท่งทอง อายุ 50 ปี 6.นายทัศนะ หริรักษ์ อายุ 35 ปี 7.ร.อ.ศิริวัฒน์ แสงประสิทธิ์ อายุ 55 ปี 8.ด.ช.รัชชานนท์ กาญจนเมธี อายุ 13 ปี 9.นางพัชรา จันทร์เพ็ง อายุ 54 ปี เสียชีวิตที่บ้านถนนหัก ต.หนองจะบก อ.เมือง ฯ จำนวน 3 ราย 1.นางอนงค์ มิตรจันทร์ อายุ 62 ปี 2.พันเอกอนันต์ฐโรจน์ กระแสร์ อายุ 48 ปี 3.พลทหารเมธา เลิศศิริ อายุ 23 ปี เสียชีวิตที่ศูนย์การค้าเทอมิเนล 21 โคราช 15 ราย 1.นายวันชัย เวชวรรณ์ อายุ 41 ปี 2.นายเอกวิน ยืนทน อายุ 18 ปี 3.ส.ต.ท.กฤษฎา การุณ 4.ร.ต.อ.ตระกูล ธาอาสา 5.นายจักรพันธ์ ชิพิมาย อายุ 44 ปี 6.นายศรัณยพงศ์ พงษ์ชอุ่มดี อายุ 55 ปี 7.นายอำนาจ บุญเอื้อ อายุ 47 ปี 8.หญิงไทย อายุประมาณ 50 ปี 9.ชายไทยอายุประมาณ 20 ปี 10.ชายไทยไม่ทราบชื่ออายุประมาณ 25 ปี 11.จ.ส.อ จักรพงษ์ ถมยา คนร้าย ส่วนอีก 4 ราย เกิดจากการเข้าไปยึดพื้นที่ในช่วงเวลาเช้าของวันที่ 9 กุมภาพันธ์ อยู่ระหว่างประสานญาติให้มายืนยันอีกครั้ง ส่วนผู้บาดเจ็บบาดเจ็บ 57 ราย กลับบ้าน 25 ราย นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 32 ราย ผ่าตัด 12 ราย ใช้เลือด 64 ยูนิต เพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บผ่าตัดสมอง 2 ราย ตับ 1 ราย ลำไส้ใหญ่ 1 ราย สมองและทรวงอก 1 ราย