รวบเซียนควายชนชื่อดัง เอ สนามบิน พร้อมสมุนคู่หู หลังประกันตัวในข้อหา ฟอกเงิน พัวพันกับยาเสพติดมาได้ 2 เดือน ผันตัวมาเป็นผู้ค้ารายใหญ่ ตำรวจสืบสวนตามแกะรอย จนพบที่หลบซ่อน สามารถ ยึดยาไอซ์ฝังดินรอบๆบริเวณบ้านพัก ยึดยาไอซ์ได้จำนวน 4,60 กก.
เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธุ์ 2563 ที่ สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ว่าที่ ร.ต.กิตติภพ รอดดอน นายอำเภอเกาะสมุย พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด จ.สุราษฎร์ธานี พ.ต.ท.มนต์ศักดิ์ ศรีสุวรรณ รอง ผกก.สส.3บก.สส.ภ.8 พ.ต.ท.ณพรุจ ราชคาม รอง ผกก.สส.พ.ต.ท.มาโนช จันทร์เที่ยง รอง.ผกก ป.สภ.บ่อผุด พ.ต.ท.ชัชชีวิน นาคมูสิค สวป.พ.ต.ต.วรศักดิ์ อัครกุล สว.สส.ร.ต.อ.วิเศษ ชูพยัคฆ์ ร.ต.อ.ศักดิ์ชาย เจริญขุน รอง.สว.สส .สภ.บ่อผุด นายสุทธิพงษ์ ทองเรือง ปลัดอำเภอเกาะสมุย เจ้าหน้าที่ กอ.รมน พื้นที่อำเภอเกาะสมุย นายวิทยา สุขสม กก.ตร.สภ.บ่อผุด ร่วมกันแถลงข่าว จับยาไอซ์ล็อตใหญ่
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก ตำรวจ สืบสวน สภ.บ่อผุด พร้อม ตำรวจ. สืบสวนภาค 8 และตำรวจสืบสวน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้ร่วมกันจับกุม นายสมรัก หรือเอ ทองมาก อายุ 40 ปี ภูมิลำเนา หมู่ 4 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นายธีรพงศ์ ศรีแผ้ว อายุ 33 ปี ภูมิลำเนา หมู่ 6 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย ของกลางยาไอซ์ จำนวน 4.60 กก. ภายในบริเวณบ้านพักของนายสมรัก หรือเอ ข้างสนามบินเกาะสมุย ในซอยบ่อขยะเก่า ที่กำลังสร้างเป็นหมู่บ้านจัดสรร หมู่ 4 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย ที่ผู้ต้องหา นำยาไอซ์ จำนวน 4.60 กิโลกรัมซุกใส่ท่อ PVC สีฟ้า และขุดดินฝังไว้บริเวณป่าละเมาะข้างบ้าน โดยทางตำรวจ ได้นำสุนัข ดมกลิ่น เข้าทำการตรวจดมกลิ่นยาไอซ์ และสามารถยึดได้ทั้งหมด
สำหรับพฤติการในการจับกุม สืบเนื่องจาก ทาง ตำรวจชุด สืบสวน สภ.บ่อผุด ได้ติดตามพฤติกรรม ของนายสมรัก หรือ เอ เซียนควายชนชื่อดังบนเกาะสมุย ภายหลังจากที่ นายสมรัก ผู้ต้องหา ที่เพิ่งได้รับการประกันตัวในคดีฟอกเงิน ตามหมายจับศาลจังหวัดไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เลขที่ 86/2562 ลงวันที่ 3 กันยายน 2562 ข้อหาฟอกเงิน พัวพันกับยาเสพติด และเพิ่งได้รับการประกันตัวออกมา เมื่อ เดือนมกราคม ที่ผ่านมา และได้มาอาศัยที่บ้านดังกล่าวข้างสนามบินเกาะสมุย โดยนายสมรัก ได้เลี้ยงควายชน และยังเป็นเซียนพนันควายชนตัวยง บนเกาะสมุย แต่เบื้องหลังค้ายาไอซ์ ที่ผ่านมา ผู้ต้องหา เดินทางเข้าออกเรือนจำมาแล้วหลายครั้ง และหมดเงินกับการต้องโทษใคดียาเสพติด หมดเงินไปแล้วจำนวนมาก เพื่อวิ่งต่อสู้คดี สุดท้ายหลังได้ประกันตัวออกมาในคดีฟอกเงิน จึงได้ผันตัวเองมาเป็น ผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยมีนายธีรพงศ์ ลูกน้องสมุนคู่ใจ
ด้าน ว่าที่ ร้อยตรีกิตติภพ รอดดอน นายอำเภอเกาะสมุย เปิดเผยว่า เท่าที่ได้รับรายงาน และตรวจสอบประวัติ ของผู้ต้องหา พบว่าผู้ต้องหา มีประวัติไม่ธรรมดา และยังเป็นคนที่มีฐานะ มีทรัพย์สินมรดก มีมูลค่าหลายสิบล้าน และเป็นคนที่ชื่นชอบในการเล่นพนันควายชน เป็นชีวิตจิตใจ และยังพบประวัติพัวพันกับยาเสพติด ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้ เป็นการจับกุมยาไอซ์ ที่มากที่สุดเท่าที่มีการจับกุมกันมาใน พื้นที่ อ.เกาะสมุย ซึ่งต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พร้อมกันนี้ ในช่วงเทศกาลงานฟูลมูนปาร์ตี้ และเทศกาลวันแห่งความรัก ในวันวาเลนไทน์ ทางเจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มมาตรการในเชิงรุกมากขึ้น เนื่องจากพบว่าเครือข่ายยาเสพติดมักใช่ช่องทางในช่วงเทศกาล แฝงตัวนำยาเสพติดมาจำหน่ายให้กับลูกค้า ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และที่ผ่านมา ก็มีการบูรณาการจับกุมกันมาอย่างต่อเนื่อง แต่ครั้งนี้ถือว่าเป็นการจับกุมยาเสพติดที่มากที่สุด จึงฝากไปถึงพี่น้องประชาชน ลำพังเจ้าหน้าที่เองก็ไม่สามารถที่จะปราบปรามยาเสพติดได้ ถ้าหากไม่มีพี่น้องประชาชน ร่วมเป็นหูเป็นตา
ทาง พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด เปิดเผยว่า สำหรับนาย สมรัก หรือเอ ทองมาก ผู้ต้องหา ที่เพิ่งพ้นโทษออกมา ในคดียาเสพติด ทาง ตร.ชุด สส. สภ.บ่อผุด ได้ติดตามเฝ้าพฤติกรรม มาอย่างต่อเนื่อง และยังทราบว่า ภายหลังได้พ้นโทษออกมา ได้ขยับตัวเองจาก ผู้ค้ารายย่อย มาเป็นผู้ค้ารายใหญ่ ในพื้นที่ และทาง ตำรวจ ชุด สืบสวน สภ.บ่อผุด ได้จับกุมเครือข่ายของนายสมรัก ได้มาก่อนหน้านี้ และมีการขยายผล นำไปสู่การจับกุม นายสมรัก ที่นำยาเสพติดซุกซ่อนไว้บริเวณข้างบ้าน จำนวน 4.60 กิโลกรัม ซึ่งเป็นการจับกุมที่มากที่สุดเท่าที่เปิดทำการ สภ.บ่อผุด ขึ้นมาในย่านแหล่งท่องเที่ยวชั้นใน
โดยว่าที่ ร้อยตรี กิตติภพ รอดดอน นายอำเภอเกาะสมุย และนายวิทยา สุขสม กก.ตร.สภ.บ่อผุด ได้ทำการมอบรางวัล ให้กับทาง ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด เพื่อเป็นกำลังใจในการปฎิบัติหน้าที่ และมีกำลังในในการปราบปรามยาเสพติด เพื่อลดการแพร่ระบาดขอยาเสพติดใน อ.เกาะสมุย เนื่องนับวันยาเสพติดได้แพร่ระบาด มากขึ้นทุกวัน ซึ่งในรอบเดือนกุมภาพันธุ์ ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.บ่อผุด ได้ทำการปราบปราม จับกุม ผู้เสพ และผู้ค้ารายย่อย และมีการขยายผลไปถึงผู้ค้ารายใหญ่ และมีการจับกุมอาวุธปืน สามารถยาเสพติดยาไอซ์ 5,032 กรัม พร้อมด้วย ยาบ้า 220 เม็ด และ เฮโรอีน จำนวน 8 หลอด อาวุธปืนมีทะเบียน 2 กระบอก และไม่มีทะเบียน 6 กระบอก เชื่อว่าหากทุกฝ่ายมีการบูรณาการ กันอย่างจริงจังเชื่อว่า จะทำให้ยาเสพติดลดลงไปบ้าง
ในเบื้องต้น จากการสอบปากคำ นายสมรัก หรือเอ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ยาไอซ์ทั้งหมดเป็นของตนเอง โดยได้สั่งซื้อมาจาก ทางภาคเหนือ ในราคา กก. ละ 300.000 บาท ซึ่งตนได้สั่งมา เมื่อประมาณ กลางเดือนมกราคม และแบ่งจำหน่ายไป จนเหลือ จำนวน 4,60 กก.ซึ่งสำหรับยาไอซ์ ที่จับกุมในครั้งนี้มึมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ซึ่งทาง ตำรวจชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่ง ยาไอซ์ เพื่อจำหน่าย พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.//
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก ตำรวจ สืบสวน สภ.บ่อผุด พร้อม ตำรวจ. สืบสวนภาค 8 และตำรวจสืบสวน ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ได้ร่วมกันจับกุม นายสมรัก หรือเอ ทองมาก อายุ 40 ปี ภูมิลำเนา หมู่ 4 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นายธีรพงศ์ ศรีแผ้ว อายุ 33 ปี ภูมิลำเนา หมู่ 6 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย ของกลางยาไอซ์ จำนวน 4.60 กก. ภายในบริเวณบ้านพักของนายสมรัก หรือเอ ข้างสนามบินเกาะสมุย ในซอยบ่อขยะเก่า ที่กำลังสร้างเป็นหมู่บ้านจัดสรร หมู่ 4 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย ที่ผู้ต้องหา นำยาไอซ์ จำนวน 4.60 กิโลกรัมซุกใส่ท่อ PVC สีฟ้า และขุดดินฝังไว้บริเวณป่าละเมาะข้างบ้าน โดยทางตำรวจ ได้นำสุนัข ดมกลิ่น เข้าทำการตรวจดมกลิ่นยาไอซ์ และสามารถยึดได้ทั้งหมด
สำหรับพฤติการในการจับกุม สืบเนื่องจาก ทาง ตำรวจชุด สืบสวน สภ.บ่อผุด ได้ติดตามพฤติกรรม ของนายสมรัก หรือ เอ เซียนควายชนชื่อดังบนเกาะสมุย ภายหลังจากที่ นายสมรัก ผู้ต้องหา ที่เพิ่งได้รับการประกันตัวในคดีฟอกเงิน ตามหมายจับศาลจังหวัดไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เลขที่ 86/2562 ลงวันที่ 3 กันยายน 2562 ข้อหาฟอกเงิน พัวพันกับยาเสพติด และเพิ่งได้รับการประกันตัวออกมา เมื่อ เดือนมกราคม ที่ผ่านมา และได้มาอาศัยที่บ้านดังกล่าวข้างสนามบินเกาะสมุย โดยนายสมรัก ได้เลี้ยงควายชน และยังเป็นเซียนพนันควายชนตัวยง บนเกาะสมุย แต่เบื้องหลังค้ายาไอซ์ ที่ผ่านมา ผู้ต้องหา เดินทางเข้าออกเรือนจำมาแล้วหลายครั้ง และหมดเงินกับการต้องโทษใคดียาเสพติด หมดเงินไปแล้วจำนวนมาก เพื่อวิ่งต่อสู้คดี สุดท้ายหลังได้ประกันตัวออกมาในคดีฟอกเงิน จึงได้ผันตัวเองมาเป็น ผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยมีนายธีรพงศ์ ลูกน้องสมุนคู่ใจ
ด้าน ว่าที่ ร้อยตรีกิตติภพ รอดดอน นายอำเภอเกาะสมุย เปิดเผยว่า เท่าที่ได้รับรายงาน และตรวจสอบประวัติ ของผู้ต้องหา พบว่าผู้ต้องหา มีประวัติไม่ธรรมดา และยังเป็นคนที่มีฐานะ มีทรัพย์สินมรดก มีมูลค่าหลายสิบล้าน และเป็นคนที่ชื่นชอบในการเล่นพนันควายชน เป็นชีวิตจิตใจ และยังพบประวัติพัวพันกับยาเสพติด ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้ เป็นการจับกุมยาไอซ์ ที่มากที่สุดเท่าที่มีการจับกุมกันมาใน พื้นที่ อ.เกาะสมุย ซึ่งต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พร้อมกันนี้ ในช่วงเทศกาลงานฟูลมูนปาร์ตี้ และเทศกาลวันแห่งความรัก ในวันวาเลนไทน์ ทางเจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มมาตรการในเชิงรุกมากขึ้น เนื่องจากพบว่าเครือข่ายยาเสพติดมักใช่ช่องทางในช่วงเทศกาล แฝงตัวนำยาเสพติดมาจำหน่ายให้กับลูกค้า ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และที่ผ่านมา ก็มีการบูรณาการจับกุมกันมาอย่างต่อเนื่อง แต่ครั้งนี้ถือว่าเป็นการจับกุมยาเสพติดที่มากที่สุด จึงฝากไปถึงพี่น้องประชาชน ลำพังเจ้าหน้าที่เองก็ไม่สามารถที่จะปราบปรามยาเสพติดได้ ถ้าหากไม่มีพี่น้องประชาชน ร่วมเป็นหูเป็นตา
ทาง พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด เปิดเผยว่า สำหรับนาย สมรัก หรือเอ ทองมาก ผู้ต้องหา ที่เพิ่งพ้นโทษออกมา ในคดียาเสพติด ทาง ตร.ชุด สส. สภ.บ่อผุด ได้ติดตามเฝ้าพฤติกรรม มาอย่างต่อเนื่อง และยังทราบว่า ภายหลังได้พ้นโทษออกมา ได้ขยับตัวเองจาก ผู้ค้ารายย่อย มาเป็นผู้ค้ารายใหญ่ ในพื้นที่ และทาง ตำรวจ ชุด สืบสวน สภ.บ่อผุด ได้จับกุมเครือข่ายของนายสมรัก ได้มาก่อนหน้านี้ และมีการขยายผล นำไปสู่การจับกุม นายสมรัก ที่นำยาเสพติดซุกซ่อนไว้บริเวณข้างบ้าน จำนวน 4.60 กิโลกรัม ซึ่งเป็นการจับกุมที่มากที่สุดเท่าที่เปิดทำการ สภ.บ่อผุด ขึ้นมาในย่านแหล่งท่องเที่ยวชั้นใน
โดยว่าที่ ร้อยตรี กิตติภพ รอดดอน นายอำเภอเกาะสมุย และนายวิทยา สุขสม กก.ตร.สภ.บ่อผุด ได้ทำการมอบรางวัล ให้กับทาง ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด เพื่อเป็นกำลังใจในการปฎิบัติหน้าที่ และมีกำลังในในการปราบปรามยาเสพติด เพื่อลดการแพร่ระบาดขอยาเสพติดใน อ.เกาะสมุย เนื่องนับวันยาเสพติดได้แพร่ระบาด มากขึ้นทุกวัน ซึ่งในรอบเดือนกุมภาพันธุ์ ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.บ่อผุด ได้ทำการปราบปราม จับกุม ผู้เสพ และผู้ค้ารายย่อย และมีการขยายผลไปถึงผู้ค้ารายใหญ่ และมีการจับกุมอาวุธปืน สามารถยาเสพติดยาไอซ์ 5,032 กรัม พร้อมด้วย ยาบ้า 220 เม็ด และ เฮโรอีน จำนวน 8 หลอด อาวุธปืนมีทะเบียน 2 กระบอก และไม่มีทะเบียน 6 กระบอก เชื่อว่าหากทุกฝ่ายมีการบูรณาการ กันอย่างจริงจังเชื่อว่า จะทำให้ยาเสพติดลดลงไปบ้าง
ในเบื้องต้น จากการสอบปากคำ นายสมรัก หรือเอ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ยาไอซ์ทั้งหมดเป็นของตนเอง โดยได้สั่งซื้อมาจาก ทางภาคเหนือ ในราคา กก. ละ 300.000 บาท ซึ่งตนได้สั่งมา เมื่อประมาณ กลางเดือนมกราคม และแบ่งจำหน่ายไป จนเหลือ จำนวน 4,60 กก.ซึ่งสำหรับยาไอซ์ ที่จับกุมในครั้งนี้มึมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ซึ่งทาง ตำรวจชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทหนึ่ง ยาไอซ์ เพื่อจำหน่าย พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.//