นายสฤษฎ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่พรรคภูมิใจไทย หนึ่งในสมาชิกกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อศึกษาโครงการคลองไทย ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นในเวทีเสวนา "คลองไทย คุ้มค่าต่อประเทศไทยหรือไม่" ร่วมกับวุฒิสภา ได้รับการจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยรังสิต เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตั้งข้อสังเกตว่า การทำงานในครั้งนี้ สมาชิกทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี และเสียงส่วนใหญ่สนับสนุนให้มีการศึกษาคลองไทย แต่กระนั้น ก็มีข้อกังวลที่ต้องนำไปศึกษาให้ละเอียด เช่น คลองไทยเส้น 9A จะกลายเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ ของมหาอำนาจชาติใดชาติหนึ่งหรือไม่ และ ไม่ควรให้ชาติใดชาติหนึ่งเป็นเจ้าภาพในการขุด รวมไปถึงความกังวลเรื่องสิ่งแวดล้อม จะต้องไม่เสียหาย หรือป้องกันแก้ไขได้ การท่องเที่ยวภาพรวมต้องไม่กระทบ ผู้เสียประโยชน์ต้องได้ประโยชน์ร่วมกัน นอกจากนี้ การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อการศึกษา ถือเป็นการนำเอาโครงการเมกะโปรเจคต์นี้ เข้าไปในช่องทางกฎหมาย ซึ่งมีสส.ผลักดันกันเต็มที่ มีความเห็นเป็นไปในทางเดียวกัน ต้องการตอบโจทย์ สภาผู้แทนราษฎรในชุดนี้จะหาคำตอบให้สมบูรณ์ที่สุด วุฒิสภาต้องช่วยประคับประคองด้วย เรามีความเที่ยงตรงเชื่อถือได้ ขณะทางด้าน "นิพนธ์ บุญญามณี" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย สส.พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นว่า การศึกษาครั้งนี้จะต้องหาคำตอบและได้ข้อสรุปที่ครบถ้วน เพราะถือว่าเป็นการศึกษาเรื่องคลองไทยครั้งใหญ่สุด และทำพร้อมกันทั้ง 2 สภา คือสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ซึ่งถือว่าเป็นตัวประชาชนที่ได้ศึกษา ทุกคนรอฟังผลการศึกษา อย่างใจจดใจจ่อ และหวังว่า ทั้งสองสภา จะศึกษาจะครอบคลุมทุกมิติ โดยเฉพาะเรื่องประโยชน์ที่จะได้จากเศรษฐกิจ ต้องช่วยให้คนในพื้นที่ภาคใต้มีงานทำจริง และเศรษฐกิจของชาติเติบโต ด้าน "จิมมี่ ชวาลา" นักธุรกิจชื่อดังของจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมแสดงความเห็นว่า การท่องเที่ยวจะได้ผลประโยชน์มากที่สุดใกล้เคียงกับเรื่องการพัฒนาอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ เพราะไทยมีศักยภาพการท่องเที่ยวสูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มีรายได้จากการท่องเที่ยวปีละราว 1.5 ล้านล้านบาท โดยได้เสนอให้ขุดคลอง คู่ขนาน เพื่อให้เป็นคลองเพื่อการท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญ ซึ่งจะทำให้ชาวบ้านระดับล่าง ซึ่งมีโฉนดที่ดิน ตลอดแนวคลองมีส่วนร่วมในการสร้างรายได้อีกด้วย ในปัจจุบันบริษัทเดินเรือสำราญ ระดับโลก กว่า 38 แบรนด์ มุ่งหน้าสู่ท่าเรือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเน้นมาที่ไทย เวียดนาม มาเลเซียและจีน และเพิ่มเมืองท่องเที่ยวอย่างเชียงใหม่ และฮอยอัน เข้าไปในโปรแกรมท่องเที่ยว หากมีคลองไทย บริษัทเรือท่องเที่ยวระดับโลก อาจย้ายฐานเข้ามาตั้งฮับเรือในประเทศไทยได้ ปัจจุบัน สิงคโปร์ และฮ่องกง เป็นฮับเรือท่องเที่ยวของภูมิภาคเอเชีย ทั้งนี้ ภายหลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งฝากรัฐบาลและฝ่ายค้าน ลงมติเห็นชอบให้ตั้ง คณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อศึกษาโครงการคลองไทย อย่างรอบด้าน มีกำหนดเวลาทำงาน 120 วันนับตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2563 ส่งผลให้มีการจัดเสวนาเพื่อระดมแนวคิดจากทุกภาคส่วน เพื่อเสนอหัวข้อในการศึกษาถึงโอกาสความเป็นไปได้ ข้อดีและข้อเสียของโครงการ เมกะโปรเจค คลองไทยโดยสรุป และส่งให้คณะทำงานของกรรมาธิการวิสามัญ สภาผู้แทนราษฎร นำไปพิจารณาเพื่อศึกษาต่อไป