อุตรดิตถ์ : นายธนากร อึ้งจิตรไพศาล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ลงพื้นที่อำนวยการกู้ซากชนต่อไม้ จนล่มจมใต้อ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังจากได้ประสานทหารเรือชุดประดาน้ำจากกองประดาน้ำและถอดทำลายอมภัณฑ์ กรมสรรพาวุธกองทัพเรือ ที่เดินทางมาฝึกยุทธวิธีการประดาน้ำขั้นสูง บริเวณอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ อ.ท่าปลา ระหว่าง 4-8 ก.พ. จัดชุดปฏิบัติการกู้ซากเรือดังกล่าว ท่ามกลางญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต และชาวบ้านต่างให้ความสนใจเฝ้าติดตามการกู้ซากเรือลำดังกล่าว เนื่องจากเป็นครั้งแรกของการปฏิบัติการกู้ซากเรือกลางเขื่อนสิริกิติ์ โดยมีการนำหมากแห้ง ใบพลู บุหรี่ยาเส้น จุดธูป 7 ดอก ทำพิธีขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทวดา เจ้าที่ พระแม่คงคา และขอดวงวิญญาณผู้เสียชีวิต ช่วยคุ้มครองทีมเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่กู้ซากเรือได้สำเร็จและปลอดภัยด้วย โดยเรือตรี สุพิศ อุปรี หัวหน้าชุดครูฝึก กองประดาน้ำและถอดทำลายอมภัณฑ์ กรมสรรพาวุธกองทัพเรือ พร้อมด้วยนักประดาน้ำ ได้จัดชุดปฏิบัติการกู้ซากเรือ จำนวน 35 นาย เคลียร์ซากวัสดุ อุปกรณ์ในซากเรือที่มีทั้งกระสอบข้าว ปี๊บปลาร้า และจักรยานยนต์ 1 คัน เพื่อให้เรือมีน้ำหนักเบาลง จากนั้นใช้เชือกผูกมัดเรือที่จมลงก้นอ่างเก็บน้ำลึกประมาณ 12 เมตร มัดผูกติดกับบอลลูนขนาดรับน้ำหนัก 500 กิโลกรัม (ในน้ำ) จำนวน 2 ลูก เพื่อให้ตัวเรือที่จมอยู่ลอยขึ้นมาเหนือระดับน้ำ แต่เนื่องจากต้องเจออุปสรรค เช่น ระดับความลึกขอน้ำที่ 12 เมตร และ ความขุ่นมาก การมองเห็นในระยะไม่เกิน 1 ฟุต ต้องอาศัยการคลำแทนการมองใต้น้ำ โดยทีมนักประดาน้ำ และเจ้าหน้าที่สามารถกู้เรือ มาเกยยังเกาะที่ใกล้ที่สุดได้สำเร็จ ใช้เวลาราวประมาณกว่า 7 ชั่วโมง ทั้งนี้ ตามกฎหมายของกรมเจ้าท่า หากมีเรือเกิดจมลงในแม่น้ำ เจ้าของเรือจะต้องทำการกู้ซากเรือขึ้นมาภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หากไม่สามารถกู้ซากเรือได้เอง ทางกรมเจ้าท่าจะทำการกู้ซากเรือให้ แต่ต้องจ่ายเงินเป็นค่าดำเนินการประมาณเกือบ 2 แสนบาท ส่วนในการดำเนินการของนักประดาน้ำกองทัพเรือครั้งนี้แทบจะไม่เสียค่าใช้จ่ายเลย ด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่ทำให้ภารกิจสำคัญครั้งนี้ลุล่วงไปได้ด้วยดี และ ในขั้นต่อไปกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์จะเข้าตรวจพิสูจน์อีกครั้ง สำหรับการเก็บกู้ขึ้นฝั่งทางพื้นที่จะเริ่มดำเนินการใช้รอกชักดึงและหารือกับเจ้าของเรืออีกครั้งต่อไป. กิตติพงษ์ ทุนเพิ่ม ทีมข่าวภูมิภาค.