วันที่ 6 ก.พ.63 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าเหตุ เพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ชุมชนวัดมะกอก เขตพญาไท ในพื้นที่ สน.พญาไท ว่า วันที่ 6 ก.พ.63 ประมาณ 10.06 น. รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บริเวณชุมชนวัดมะกอก เขตพญาไท พนักงานสอบสวน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนและผู้ที่เกี่ยวข้อง จึงรีบไปตรวจที่เกิดเหตุขณะนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิง สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อยู่ระหว่างควบคุมเพลิงไหม้ ในเบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด เบื้องต้นพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน และ เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานกลาง จะสามารถเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุภายหลังจากสามารถควบคุมเพลิง และอุณหภูมิภายในที่เกิดเหตุลดต่ำลงจนปลอดภัย เพื่อหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ว่า เกิดจากสาเหตุใด
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า ได้รับรายงานเพิ่มเติมว่าต้นเพลิง มาจากบ้านไม้ ซึ่งอยู่ด้านหลัง รพ.พระมงกุฎฯ ติดกับคลองสามเสน เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินราคาความเสียหายได้ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ พร้อมกันนี้ ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางเดินรถในบริเวณใกล้เคียงดังกล่าว ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประสานการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนในการช่วยเหลือประชาชน ระงับเหตุเพลิงไหม้ อพยพประชาชนออกจากที่เกิดเหตุโดยเร็ว ด้วยความปลอดภัย ประกอบกับอำนวยความสะดวกจราจรโดยรอบ ให้เกิดปัญหาการจราจรติดน้อยที่สุด อีกทั้ง ยังได้กำชับพนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานด้วยความรอบครอบ สอบสวนให้สิ้นกระแสความ ในการหาสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและสามารถตอบคำถามสังคมได้ โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน สนับสนุนหาข้อมูลพยานหลักฐานที่มีความเกี่ยวข้องในคดีดังกล่าวในทุกมิติแก่พนักงานสอบสวน ดำเนินการสืบสวนสอบสวนอย่างเป็นระบบ มีความเชื่อถือได้
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า ได้รับรายงานเพิ่มเติมว่าต้นเพลิง มาจากบ้านไม้ ซึ่งอยู่ด้านหลัง รพ.พระมงกุฎฯ ติดกับคลองสามเสน เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินราคาความเสียหายได้ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ พร้อมกันนี้ ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางเดินรถในบริเวณใกล้เคียงดังกล่าว ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประสานการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนในการช่วยเหลือประชาชน ระงับเหตุเพลิงไหม้ อพยพประชาชนออกจากที่เกิดเหตุโดยเร็ว ด้วยความปลอดภัย ประกอบกับอำนวยความสะดวกจราจรโดยรอบ ให้เกิดปัญหาการจราจรติดน้อยที่สุด อีกทั้ง ยังได้กำชับพนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานด้วยความรอบครอบ สอบสวนให้สิ้นกระแสความ ในการหาสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและสามารถตอบคำถามสังคมได้ โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน สนับสนุนหาข้อมูลพยานหลักฐานที่มีความเกี่ยวข้องในคดีดังกล่าวในทุกมิติแก่พนักงานสอบสวน ดำเนินการสืบสวนสอบสวนอย่างเป็นระบบ มีความเชื่อถือได้