หลังจากเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 4 ก.พ.2563 เครื่องบินได้นำคนไทยในนครอู่ฮั่นและมณฑลหูเป่ยกลับสู่ประเทศไทยจำนวน 138 คน เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา (ระยอง–พัทยา) โดยสวัสดิภาพ ขณะที่ลูกเรือและผู้โดยสารที่เดินทางมากับเที่ยวบินดังกล่าวทั้งหมด ซึ่งรวมถึงทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข 7 คน เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ 2 คน และเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง ที่เดินทางไปปฏิบัติภารกิจให้ความช่วยเหลือคนไทยในพื้นที่นครอู่ฮั่นอีก 3 คน โดยจะต้องผ่านกระบวนการตรวจ คัดกรองโรคตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด นอกจากนี้ในโอกาสที่รัฐบาลไทยจัดส่งเครื่องบินไปเคลื่อนย้ายคนไทยที่นครอู่ฮั่นนี้ คณะเจ้าหน้าที่ในหน่วยปฏิบัติการฯ ยังได้อัญเชิญสิ่งของพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี รวมทั้งเวชภัณฑ์แสดงน้ำใจจากรัฐบาลไทย ไปมอบให้แก่รัฐบาลและประชาชนชาวจีนพร้อมกับเที่ยวบินดังกล่าวด้วย นายชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รอง นรม.และ รมว. สาธารณสุข ร่วมกันเปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศในฐานะหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการบูรณาการภารกิจภาครัฐ-เอกชน ขอขอบคุณ และแสดงความชื่นชมคณะเจ้าหน้าที่ รวมทั้งหน่วยงานทุกฝ่าย ที่ได้อุทิศตนปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังในการเคลื่อนย้ายคนไทยจากนครอู่ฮั่นกลับประเทศอย่างสมัครใจโดยสวัสดิภาพในครั้งนี้ ขณะที่ความสำเร็จที่สำคัญสูงสุด คือ การรับคนไทยจากนครอู่ฮั่นและมณฑลหูเป่ยกลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัย และคลายความกังวลใจของคนไทยทั้งประเทศ พร้อมกันนี้ กระทรวงการต่างประเทศขอขอบคุณทางการจีน ทั้งรัฐบาลกลางและระดับท้องถิ่นและขอแสดงความชื่นชมในน้ำใจไมตรีของพี่น้องชาวจีน ทั้งนายจ้าง ผู้บริหารสถาบันการศึกษา และประชาชนจีน ทุกคนที่ได้มีส่วนช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดรถรับมาส่งคนไทยที่ท่าอากาศยานอู่ฮั่นเพื่อเดินทางกลับประเทศในครั้งนี้ แม้ว่าอยู่ในช่วงยากลำบาก สำหรับคนไทย 3 คน ที่ไม่ผ่านการคัดกรองผู้โดยสารขึ้นเครื่องบินของทางการจีน กระทรวงการต่างประเทศได้ให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง ประสานงานกับทางการจีนเพื่อดูแลอย่างใกล้ชิดโดยสถานเอกอัครราชทูตฯ พร้อมให้คำแนะนำช่วยเหลือตลอดเวลา ภารกิจในครั้งนี้สะท้อนถึงความร่วมมือและน้ำใจไมตรีของสองมิตรประเทศใกล้ชิดที่มีมาอย่างยาวนาน และขอให้จีนสามารถผ่านเหตุการณ์ยากลำบากในครั้งนี้และกลับมาสู่ภาวะปกติได้โดยเร็ว Cr.ภาพและข้อมูลจากกระทรวงต่างประเทศ