"วาย แอล พี" เปิดตัวโครงการ "วินด์เชลล์ นราธิวาส" ที่พักอาศัยใจกลางเมืองแนวคิดใหม่ "ทรอปิคอล สแตกกิ้ง โฮม" ที่รวมเอาจุดเด่นของบ้านและคอนโดฯ ไว้ด้วยกัน เปิดขายในรูปแบบดูเพล็กซ์ขนาดใหญ่เริ่มต้น 453 ตารางเมตร จับช่องว่างในตลาดและดีมานด์ครอบครัวคนเมือง โดยโครงการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยพร้อมยอดขายแล้ว 40% นายโชติพล เตชะไกรศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท วาย แอล พี จำกัด เปิดเผยว่า จากความเชี่ยวชาญที่บริษัททำโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์มาเป็นเวลานาน ประกอบกับการพูดคุยศึกษาในรายละเอียดเชิงลึก จึงเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้อย่างแท้จริง และพบว่า ยังมีลูกค้าไฮเอนด์อีกกลุ่มหนึ่ง ที่มีไลฟ์สไตล์และความต้องการที่ฉีกไปจากกลุ่มหลัก อาทิ ไม่ต้องการความลักชัวรี่แบบเดิมๆ ไม่ต้องการดีไซน์หรูหราที่ทางโครงการเลือกให้ แต่ต้องการมีบ้านคุณภาพดีใจกลางเมืองสำหรับครอบครัว และสามารถปรับเปลี่ยนได้ในแบบที่ตัวเองชื่นชอบ ทางบริษัท วาย แอล พี จึงได้แนวคิดใหม่ในการพัฒนาโครงการ “วินด์เชลล์ นราธิวาส” มูลค่า 3,000 ล้านบาท ตั้งอยู่บนที่ดินฟรีโฮลด์ขนาดกว่า 2 ไร่ บนถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ติดกับสถานีบีอาร์ทีถนนจันทน์ และสามารถเชื่อมต่อกับทางด่วน ถนนสาทร และถนนพระรามสี่ได้อย่างง่ายดาย สำหรับ บ้านที่วินด์เชลล์ นราธิวาส โดยนำเสนอบ้านในรูปแบบคอนโดที่ผสานความสวยงาม เป็นมิตร และการอยู่ร่วมกับธรรมชาติในรูปแบบที่ไม่ผ่านการปรุงแต่ง ในคอนเซ็ปท์ “ทรอปิคอล สแตกกิ้ง โฮม” มาในรูปแบบดูเพล็กซ์ 2 ขนาด คือ 453 และ 562 ตารางเมตร และมีเพียง 2 ยูนิตต่อชั้น แต่ละชั้นมีความสูง 7 เมตร และออกแบบให้มีการระบายอากาศได้ดีทั้งภายในอาคารและทุกยูนิต (Natural Cross Ventilation) โดยจัดวางอาคารให้สามารถรับลมธรรมชาติได้ตลอดทั้งปี โดยจากการศึกษาในเชิงลึกกับกลุ่มลูกค้าของบริษัทพบว่า ลูกค้าที่ซื้อยูนิตใหญ่เพื่อใช้เป็นที่พักอาศัยจริงแต่ละท่านมีไลฟ์สไตล์และความต้องการใช้งานที่แตกต่างกัน วินด์เชลล์ นราธิวาส จึงเปิดขายในรูปแบบ เชลล์ หรือ ห้องเปล่า มอบความยืดหยุ่นในการออกแบบตกแต่งภายในตามที่ท่านเจ้าของบ้านต้องการ ทำให้เกิดบ้านที่มีดีไซน์พิเศษไม่ซ้ำใคร โดยมาพร้อมกับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา และมอบความเป็นส่วนตัวสูงสุดที่พบได้ในคอนโดไฮไรซ์ทำเลใจกลางเมือง เชลล์ทุกยูนิตมีความเรียบง่าย แข็งแรง ไม่ซับซ้อน หากแต่ผ่านการคิดคำนวณมาเป็นอย่างดี โดยแต่ละยูนิตมาพร้อมไพรเวทลิฟต์และโถงลิฟต์ส่วนตัวทุกห้อง เมื่อผ่านเข้าตัวบ้านจะพบกับพื้นที่ส่วนนั่งเล่นที่มีความสูงกว่า 6.7 เมตร จึงทำให้เกิดฟีเจอร์หน้าต่างและประตูนิรภัยป้องกันรังสียูวีที่มีความสูงเป็นพิเศษถึง 5.5 เมตรเพื่อเปิดรับลมได้ทั้งบานหรือเฉพาะจุด และเพื่อให้ผู้พักอาศัยสามารถเพลิดเพลินกับวิวอลังการทั้งสองฝั่งของบ้านอย่างจุใจตลอดทั้งปี นอกจากนี้ในเชลล์ยังมีการจัดแบ่งโซนสำหรับห้องนอน ห้องน้ำ โซนหลังบ้าน และส่วนห้องแม่บ้าน โดยเจ้าของบ้านสามารถปรับเปลี่ยนการใช้สอยของพื้นที่เหล่านี้ได้ตามต้องการ ทั้งสองฝั่งของเชลล์ทุกยูนิตยังประกอบด้วยระเบียงขนาดใหญ่ขนาด 30 – 50 ตารางเมตร มีความลึกต่ำกว่าระดับพื้นห้องถึง 1.15 เมตร สามารถทำเป็นสวนหย่อม สวนหลังบ้าน หรือเป็นสระว่ายน้ำส่วนตัว ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถตกแต่งเชลล์ตามแบบที่ตัวเองต้องการหรือเลือกจากแนวทางที่ทางโครงการจัดเตรียมไว้ให้ โดยโครงการมีเจ้าหน้าที่ประสานงานให้คำแนะนำในการกั้นและตกแต่งห้อง ตลอดจนแนะนำสถาปนิกและมัณฑนากรชั้นนำให้กับลูกค้า เพื่อมั่นใจว่าจะได้บ้านที่ถูกใจและตรงกับความต้องการใช้งานมากที่สุด นอกจากนี้ วินด์เชลล์ นราธิวาสยังมอบสิ่งอำนวยความสะดวกมากกว่าโครงการคอนโดทั่วไป เช่น ที่จอดรถจำนวน 209 คัน (500%) โดยแต่ละยูนิตสามารถจอดรถได้ 3 คัน พร้อมที่จอดรถซูเปอร์คาร์ และฟีเจอร์พิเศษตู้เก็บสัมภาระส่วนตัวในช่องจอดรถ พร้อมจุดบริการชาร์จไฟแบบ plug-in hybrid และยังมีที่จอดรถส่วนกลางอีกมากกว่า 100 คัน พร้อมสำหรับงานอีเว้นท์ สังสรรค์ หรือการประชุมที่บ้านตามความต้องการ นอกจากนี้ ยังสามารถเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ และยังได้ทั้งความปลอดภัย ตลอดจนความสะดวกสบายในรูปแบบคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองด้วยระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โดยมีพื้นที่ส่วนกลางมากกว่า 1,000 ตารางเมตรที่ชั้นบนสุดทั้งชั้นของอาคาร พร้อมมอบทิวทัศน์อันงดงามของกรุงเทพมหานคร แม่น้ำเจ้าพระยา และบางกระเจ้า ณ ระดับความสูงมากกว่า 160 เมตรที่เจ้าของบ้านทุกท่านสามารถเข้าใช้งานได้ องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้การใช้ชีวิตใน วินด์เชลล์ นราธิวาส ไม่ต่างจากการใช้ชีวิตบนบ้านที่ติดพื้นดินใจกลางเมืองที่มาพร้อมกับวิวและประโยชน์ต่างๆของคอนโด ปัจจุบันวินด์เชลล์ นราธิวาส ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วพร้อมห้องตัวอย่าง 2 ยูนิต และห้องตัวอย่างเพิ่มเติมอีก 2 ยูนิต จาก ชนินทร์ จะเสร็จสมบูรณ์ในเร็วๆนี้ มียอดขายแล้วกว่า 40% ซึ่งถือว่าขายได้เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากขนาดห้อง ที่ใหญ่กว่าโครงการอื่นในตลาดและโครงการมีรายละเอียดที่ลูกค้าต้องใช้เวลาพอสมควรในการทำความเข้าใจ โดยในจำนวนนี้พบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการซื้อเพื่อพักอาศัยเองและใช้อยู่อาศัยในระยะยาว และที่ยิ่งไปกว่านั้น คือ มีลูกค้าหลายรายที่ซื้อ 2 ยูนิตในชั้นเดียวกัน เพื่อพักอาศัยร่วมกันกับครอบครัวของพี่น้องตัวเอง ซึ่งทางโครงการก็ให้อิสระกับลูกค้าในการ combine ยูนิตได้อีกด้วย ทั้งนี้ อีกหนึ่งในลูกค้าสำคัญของวาย แอล พี คือ ทางกลุ่ม บริษัท ชนินทร์ ซึ่งได้ลงทุนซื้อ 2 ยูนิตในโครงการ เนื่องจากเห็นว่าบ้านที่วินด์เชลล์ นราธิวาส มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวางและตอบโจทย์ด้านดีไซน์ สามารถออกแบบได้หลากหลาย โดยทางกลุ่มบริษัท ชนินทร์ ได้มีการว่าจ้างดีไซน์เนอร์ระดับโลก บาร์บาร่า แบรี่ และ Studio Daminato มาออกแบบบ้านทั้ง 2 ยูนิตนี้ รวมถึงมีแผนที่จะออกแบบตกแต่งให้กับลูกค้าที่สนใจสไตล์ห้องของดีไซน์เนอร์ดังกล่าวอีกด้วย “ในขณะที่ที่ดินใจกลางเมืองสำหรับปลูกบ้านสักหลังนั้นหาได้ยากขึ้นทุกวัน หากเทียบความคุ้มค่าระหว่างการสร้างบ้านเดี่ยวพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกเทียบเท่ากับโครงการวินด์เชลล์ในทำเลเดียวกันแล้วต้องใช้พื้นที่มากถึง 1 ไร่ต่อหลัง ซึ่งต้องใช้งบประมาณเริ่มต้นถึงกว่า 300 ล้านบาทสำหรับค่าที่ดินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น อีกทั้งยังต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยและต้องบำรุงรักษาเอง โครงการวินด์เชลล์ นราธิวาส จึงนับเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการหาบ้านคุณภาพดีใจกลางเมืองเพื่ออยู่อาศัยในระยะยาว” นายโชติพลกล่าว