จากข่าวที่สาววัย 38 พบเนื้องอกในมดลูกขนาดใหญ่มาก หลังปวดถ่วงท้องน้อยมาปีกว่า นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า เนื้องอกมดลูก เป็นก้อนเนื้อที่เจริญเติบโตผิดปกติ โดยเกิดได้ที่ผิวด้านนอกผนังมดลูก อยู่ในเนื้อมดลูก หรืออยู่ในโพรงมดลูก ซึ่งผู้หญิงช่วงอายุ 30 -45 ปี มีความเสี่ยงมากที่สุด สำหรับอาการ บางรายอาจไม่มีอาการแสดงใด ๆ แต่บางรายก็อาจมีอาการเกิดขึ้นได้เช่นกัน ซึ่งลักษณะอาการขึ้นอยู่กับตำแหน่ง ขนาด หรือจำนวนของเนื้องอก โดยอาการที่มักพบได้ เช่น ประจำเดือนมากกว่าปกติ รู้สึกแน่นหรือปวดบริเวณท้องน้อย หรือท้องน้อยโตขึ้น ปัสสาวะบ่อย หรือปัสสาวะลำบาก ปวดหลัง หรือปวดขา ท้องผูก ถ้ามีอาการเหล่านี้ควรพบแพทย์ทันที การวินิจฉัยนั้นทำได้จากการตรวจภายใน และยืนยันการวินิจฉัยด้วยการตรวจอัลตราซาวด์ ซึ่งถ้าตรวจพบตั้งแต่ระยะแรกที่เนื้องอกยังมีขนาดเล็ก การรักษาก็จะทำได้ง่ายกว่า นพ.สมเกียรติ ลลิตวงศา ผอ.โรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่า การรักษาเนื้องอกมดลูก แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาขึ้นกับอาการของผู้ป่วย ลักษณะเนื้องอก อัตราการเติบโตของเนื้องอก รวมถึงปัจจัยผู้ป่วย เช่น อายุ ความต้องการมีบุตร เป็นต้น ผู้ป่วยบางรายอาจรักษาได้ด้วยยา แต่บางรายอาจต้องรักษาโดยผ่าตัดเนื้องอกออก หรืออาจต้องตัดมดลูกออก ในบางกรณี เช่น เนื้องอกมีขนาดใหญ่มาก หรือมีเลือดออกมาก เป็นต้น ปัจจัยของการเกิดเนื้องอกมดลูกนั้น มีหลายปัจจัย เช่น ใช้ยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด อาจจะเพิ่มการเจริญเติบโตของเนื้องอกมดลูกได้ กรรมพันธุ์ ฮอร์โมนเพศหญิง หรือพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่เสริมฮอร์โมนเพศหญิงมากเกินไป เนื้องอกที่พบส่วนใหญ่เป็นเนื้อดีไม่ใช่เนื้อร้าย อันตรายของเนื้องอกมดลูก คือ มีเนื้องอกขนาดใหญ่แล้วมีผลต่อการทำงานของอวัยวะส่วนอื่น เช่น ถ้าเบียดกระเพาะปัสสาวะจะทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้นแต่ออกไม่มาก หรือบางรายประจำเดือนมากกว่าปกติ จนบางครั้งเกิดภาวะซีดรุนแรงหรือเรื้อรัง ดังนั้น ผู้หญิงทุกคนควรตรวจภายในอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อตรวจหาความผิดปกติของมดลูก