ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมปี 62 ติดลบ3.7% รับผลกระทบสงครามการค้า ระบุการระบาดของไวรัสโคโรนาส่งผลให้นักลงทุนภาคอุตสาหกรรมเมืองอู่ฮั่น พิจารณาย้ายฐานการผลิตบางอุตสาหกรรมมาไทยเช่น รถยนต์ กระจายความเสี่ยง
นายทองชัย ชวลิตพิเชษฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.)เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (MPI) เดือนธ.ค.62 อยู่ที่ระดับ 99.02 หดร้อยละ 4.35 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา แต่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนพ.ย.62 หดตัวร้อยละ 8.1 ส่งผลให้ภาพรวมดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมตลอดปี 2562 ติดลบร้อยละ 3.7 น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะติดลบร้อยละ 3.8 ตามที่ได้ประมาณการไว้เดือนพ.ย.62 ด้านการใช้กำลังการผลิตเดือนธ.ค.62 อยู่ที่ร้อยละ 63.96 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ย.62 ตลอดปี 2562 อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ร้อยละ 66.3
ส่วนผลกระทบได้แก่ สงครามการค้าทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวส่งผลต่อเนื่องมายังการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมของไทย แต่ยังกลับมาเป็นบวกได้ที่ร้อยละ 0.2 การผลิตรถยนต์ลดลงร้อยละ 20.75 และผลผลิตเกษตรสำคัญหลายตัวลดลง เช่น อ้อยลดลงร้อยละ 15.23 ปาล์มน้ำมัน ลดลงร้อยละ 20.85 สับปะรด ลดลงร้อยละ14.72 ส่งผลต่ออุตสาหกรรมต่อเนื่อง
สำหรับประเด็นสำคัญที่ส่งผลต่อการผลิตเดือนม.ค.63 ได้แก่ มูลค่าการนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูปไม่รวมทองคำปรับตัวดีขึ้น เป็นสัญญาณดีต่อการผลิตภาคอุตสาหกรรมในช่วงเวลาข้างหน้า สถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในปัจจุบันอาทิ ฝุ่น PM 2.5 และการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีน อาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ ส่วนปัจจัยในประเทศคือ มาตรการช่วยเหลือเงินทุนให้กับเอสเอ็มอีของรัฐบาล
ขณะที่การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีนอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ และส่งผลกระทบต่อเนื่องมายังการผลิตภาคอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตามสินค้าไทยส่งออกไปจีนเฉพาะที่เมืองอู่ฮั่นไม่มาก และกระทบระยะสั้นและไม่มากเช่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์บางตัว ซึ่งบริษัทญี่ปุ่นในเมืองอู่ฮั่นเรียกพนักงานกลับหมด แต่จะเป็นผลดีระยะยาวที่จะมีการย้ายฐานการผลิตมาไทยในบางอุตสาหกรรมเช่น รถยนต์ เพื่อกระจายความเสี่ยง
