ร.ท.หญิงสุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา อย่ามาอ้างว่ารัฐบาลจีนไม่ยอมให้รัฐบาลไทยส่งเครื่องบินไปรับคนไทยกลับประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากไวรัสโคโรนา แต่มีสื่อต่างประเทศ รายงานว่า ขณะนี้สหรัฐได้ส่งเครื่องบินไปรับประชาชนและเจ้าหน้าที่ทางการทูตออกจากอู่ฮั่นแล้วนับร้อยคน ถ้าสหรัฐทำได้ แล้วทำไมรัฐบาลประยุทธ์ทำไม่ได้ อยากถามว่าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เป็นห่วงคนไทยหรือยังไง ทำไมจึงไม่รีบส่งเครื่องบินไปรับ ทั้งที่กองทัพอากาศและการบินไทย จัดเตรียมเครื่องบินไว้พร้อมแล้ว รอแค่คำสั่งไฟเขียวจากรัฐบาลประยุทธ์เท่านั้น ทำให้ขณะนี้ คนไทยตั้งคำถามกันมากว่า เหตุใดรัฐบาลสหรัฐจึงรีบช่วยเหลือประชาชนของเขาได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่รัฐบาลประยุทธ์ ทำงานอย่างเชื่องช้า ในการรับมือกับปัญหาไวรัสโคโรนา อย่างไรก็ตามรัฐบาลไทยอาจประเมินสถานการณ์ของโรคต่ำเกินไป ทั้งที่ขณะนี้ ประเทศไทยมีคนติดเชื้อไวรัสโคโรนามากที่สุดในโลก รองจากจีน ก็สมควรแล้วทีมีการตั้งแฮชแท็ก รัฐบาลเฮงซวย ซึ่งถือว่าเป็นคำวิจารณ์ที่เบาเกินไปด้วยซ้ำ เมื่อเทียบความบกพร่องและเชื่องช้าในการ ปกป้องผลประโยชน์ของคนไทยในค่างแดนอันที่จริง ต้องบอกว่า # รัฐบาลยิ่งกว่าเฮงซวย ด้วยซ้ำ นอกจากนี้ รัฐบาลประยุทธ์ไม่ควรหวังพึ่งแค่การคัดกรองผู้ติดเชื้อที่สนามบินเท่านั้น แต่ต้องกระตุ้นให้คนกลุ่มเสี่ยงเป็นฝ่ายเข้ามารายงานตัวเพื่อให้ข้อมูล หรือ ที่เรียกว่า Self Report ซึ่งจะประหยัดเวลาและงบประมาณ รัฐบาลต้องกำหนดศูนย์กลางการติดต่อว่า ให้ไปรายตัวที่ไหนอย่างไร และรัฐบาลต้องรายงานความคืบหน้าต่าง ๆให้ประชาชนทราบผ่านโซเชียลมีเดียด้วย เช่น เฟซบุ๊ก ไม่งั้นประชาชนอาจเข้าไม่ถึงข้อมูลต่าง ๆ ของรัฐบาล ที่สำคัญพล.อ.ประยุทธ์ ต้องลงมานั่งบัญชาการเหตุการณ์ด้วยตนเองอย่าปล่อยให้เป็นแค่เรื่องของกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเท่านั้น แต่ต้องบูรณาการการทำงานของหลายกระทรวงเพื่อรับมือ โดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศ ต้องตอบสังคมให้ได้ว่า ตัวเลขคนไทยในอู่ฮั่นมีจำนวนเท่าไหร่และพวกเขาต้องการความช่วยเหลืออย่างไรบ้าง ต้องแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับผู้ป่วยและแนวทางรักษาโรคกับรัฐบาลต่างประเทศ เพราะมีรายงานว่า ยอดผู้ติดเชื้ออาจเพิ่มแบบก้าวกระโดดถึง150,000 - 350,000 ราย หลังจากชาวอู่ฮั่น 5 ล้านคน เดินทางกลับภูมิลำเนา หลังจากไปท่องเที่ยวช่วงตรุษจีนหลายสัปดาห์ “รัฐบาลประยุทธ์ค้องสร้างความมั่นใจว่ามีมาตรการที่จะรับมือไวรัสโคโรนาที่ชัดเจน หากสถานการณ์ของโรคดังกล่าวลุกลามบานปลายในอนาคต และต้องควบคุมการบริโภคสัตว์ป่าซึ่งเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคประหลาดๆ มาสู่คนด้วย เพราะขณะนี้ทางการจีนสั่งห้ามการเปิบพิสดารดังกล่าวแล้ว" ร.ท.หญิงสุณิสา กล่าว