ตำรวจ รวบ "แมน ขอนแก่น" คาห้องพักใจกลางเมืองขอนแก่น พร้อมของกลางยาบ้า-ยาไอซ์ อื้อ พร้อมสืบสวนสอบสวนขยายผลจับกุมได้ยกแก๊ง เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 14 ส.ค. 2559 ที่ กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.ขอนแ่กน (บก.สส.ภ.จว.ขอนแ่ก่น)พ.ต.อ.สุดพิเศษเอกศิริ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่จากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยพื้นที่ขอนแก่น (กกล.รส.ภ.จ.ขอนแก่น) แถลงผลการจับกุม นายธีระวิทย์ หรือ แมน สุทธิ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่97ม.5 ต.บ้านลาน อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น นายสังวร มาลี อายุ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 ม.7 ต.ป่าปอ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น และนายรชต ศรีภักดิ์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 ม.11 ต.ป่ามะคาบ อ.เมือง จ.พิจิตร พร้อมของกลางยาบ้า 18,300 เม็ด ยาไอซ์น้ำหนัก 422.47 กรัม พ.ต.อ.สุดพิเศษ เอกศิริ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแ่กน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.ขอนแก่นได้ทำการจับกุมกลุ่มผู้เสพยาบ้ามาสอบสวนขยายผลจนทราบว่าซื้อยาบ้ามาจากนายแมนลูกจ้างชั่วคราวประจำแผนกไอซียู รพ.เอกชน ชื่อดังของ จ.ขอนแก่น ซึ่งเช่าบ้านห้องไม่มีเลขที่ภายในชุมชนสามเหลี่ยม เขตเทศบาลนครขอนแก่นเป็นที่อาศัยและขายยาบ้า-ยาไอซ์ ให้กับเด็กและเยาวชน กำลังเจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนขยายผลจนสามารถจับกุม นายแมน หรือที่่รู้จักกันในกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดว่า"แมน ขอนแก่น" ภายในห้องพัก พร้อมของกลางยาบ้า 18,200 เม็ด ยาไอซ์ 416 กรัม " จากการสอบปากคำนายแมนรับสารภาพว่า ยาบ้าและยาไอซ์เป็นของนายสังวร ซึ่งเช่าบ้านไม่มีเลขที่อยู่ที่บ้านโนนทัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยใช้เป็นสถานที่พักยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแบ่งกำลังเข้าตรวจค้นที่บ้านเช่าของนายสังวร พบนายสังวร และนายรชต นอนพักอยู่ในบ้านเช่า ค้นพบยาบ้าในตะกร้าวางของบนโต๊ะกระจก จำนวน 100 เม็ด ส่วนนายรชต พบยาไอซ์ ในกระเป็นเสื้อ น้ำหนัก 7.47กรัม จึงควบคุมตัวพร้องของกลางไปสอบสวน" พ.ต.อ.สุดพิเศษ กล่าวต่ออีกว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดอยู่ในกลุ่มขบวนการเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติ โดยมีนายทุนเป็นคนไทย อดีตนักโทษคดียาเสพติด หนีประกันชั้นศาลข้ามไปอยู่ฝั่งลาว ตั้งตัวเป็นเอเย่นยาเสพติดรายใหญ่ มีเครือข่ายทุกจังหวัดในภาคอีสานโดยจะสั่งการให้นายสังวร เป็นผู้ควบคุมดูแลเรื่องการจัดส่งยาเสพติดทุกชนิด โดยมีนายรชตเป็นคนเปิดบัญชีรับโอนเงินค่ายาเสพติดที่เครือข่ายโอนจ่ายค่ายาและเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบัญชีของนายรชต ที่เปิดผ่านธนาคารกสิกรไทย พบเงินหมุนเวียน 11 ล้านบาท ซึ่งนายรชต ก็ยอมรับว่ารับจ้างเปิดบัญชีให้ขบวนการค้ายาเสพติดจริง และทำหน้าที่ขับรถให้นายสังวร ติดตามทวงหนี้ค่ายากับเครือข่ายในภาคอีสาน โดยไม่รู้ว่ามีเงินเข้าออกหรือผ่านบัญชีกี่บาท กี่ล้าน เพราะถูกนายทุนยึดสมุดบัญชีและบัตรเอทีเอ็มไปหมด อย่างไรก็ตามหลังการสอบปากคำแล้วเสร็จจึงตั้งข้อกล่าวหานายธีระวิทย์ และนายรชต ว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท1 ยาบ้า,ยาไอซ์ ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ส่วนนายสังวร ถูกแจ้งข้อหา เป็นผู้ก่อ ให้ผู้อื่นกระทำผิด โดยการใช้ จ้างวาน หรือด้วยวิธีอื่นใด ให้ผู้อื่นกระทำผิดในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า,ยาไอซ์ ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า,ยาไอซ์ ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวผู้ต้องหาและของกลางดังกล่าวทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป