แจ้งทั่วประเทศเฝ้าระวัง ป้องกันการติดเชื้อในโรงเรียน ชี้หากพบมีความเสี่ยงต้องปิดการเรียนการสอนให้อยู่ในดุลยพินิจผอ.รร. เมื่อวันที่ 26 ม.ค.63 นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ด้วย สถานการณ์ปัจจุบันได้เกิดโรคปอดอักเสบ ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในประเทศจีนและแพร่ขยายเข้าสู่ประเทศไทย โดยเด็กจะเป็นผู้รับเชื้อได้ง่าย เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งเตือนผ่านสื่อให้เฝ้าระวังและติดตามการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จึงได้ขอให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ประชาสัมพันธ์ เฝ้าระวังการแพร่ระบาดและป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา ในโรงเรียนตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้แจ้ง ดังนี้ ดื่มน้ำอุ่น เมื่อรู้สึกกระหายน้ำ (เด็ก 30 - 50 ซีซี, ผู้ใหญ่ 50 - 80 ซีซี) หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ป่วย ไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอจาม หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด และสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่ชุมชน ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว หลีกเลี่ยงการเข้าไปตลาดค้าสัตว์ และไม่สัมผัสหรืออยู่ใกล้กับสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สัตว์ที่ป่วย หรือตาย หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำและสบู่ หรือ แอลกอฮอล์ เจลล้างมือ ห้ามรับประทานของดิบ รับประทานอาหารที่สะอาดปลอดภัย มีสารอาหารครบถ้วน รวมถึงนอนพักผ่อนให้เพียงพอ โดยหากพบนักเรียนมีอาการไข้ขึ้นอย่างรวดเร็ว ลดยาก ปวดศีรษะและลำตัว มีอาการไอต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน มีน้ำมูก ให้รีบพาไปพบแพทย์ หรือโทรแจ้งสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422 ทั้งนี้ หากพบผู้มีภาวะเสี่ยงต่อโรคให้ประสานและส่งต่อหน่วยงานด้านสาธารณสุขทันที และหากมีความจำเป็นต้องปิดโรงเรียนให้อยู่ในดุลพินิจของผู้อำนวยการโรงเรียนต่อไป