หนึ่งเดียวในโลก !!! งานมหกรรม แสง สี เสียง บุญเบิกฟ้า บูชาพระธาตุรวงข้าวเจดีย์ และของดีจังหวัดหนองคาย ประจำปี 2563 วันที่ 26 ม.ค.-2 ก.พ. 2563 บริเวณสนามหน้าที่ว่าการ อ.สระใคร วันที่ 25 มกราคม 2563 นายเตชิต ทรงบุญศาสตร์ นายอำเภอสระใคร และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน จิตอาสา และประชาชนชาวอำเภอสระใคร จังหวัดหนองคาย ได้ออกมาร่วมแรงร่วมใจกันเร่งเตรียมการจัดงานมหกรรม แสง สี เสียง บุญเบิกฟ้า บูชาพระธาตุรวงข้าวเจดีย์และของดีจังหวัดหนองคาย ประจำปี 2563 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 26 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2563 บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอสระใคร โดยมีจุดเด่นที่ พระธาตุรวงข้าวเจดีย์ศรีพระแม่โพสพ กว้าง 7 เมตร สูง 32 เมตร และส่วนประกอบโดยรอบ ซึ่งขณะนี้พร้อมแล้ว 100% นายเตชิต ทรงบุญศาสตร์ นายอำเภอสระใคร กล่าวว่า อำเภอสระใคร ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดข้าวหอมมะลิ 105 ถึง 2 ปีซ้อน ชาวอำเภอสระใคร จึงได้มีแนวความคิดในการจัดงานบุญเบิกฟ้า บูชาพระธาตุรวงข้าวเจดีย์ขึ้น เพื่อเป็นการตอบแทนคุณและบูชาพระพุทธเจ้าและพระแม่โพสพ เพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมของชาวอีสานที่สืบต่อกันมาแต่โบราณกาล และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของอำเภอสระใครและจังหวัดหนองคาย โดยจะมีการจัดงานในระหว่างวันที่ 26 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ 2563 ขณะที่กิจกรรมสำคัญภายในงานประกอบด้วย บุญเบิกฟ้า ที่จะมีการทำบุญสู่ขวัญข้าว การหาบฝุ่นลงนา เวียนเทียนเข้าเปลือกเป็นการขอขมาพระแม่โพสพและบูชาพระพุทธเจ้า และมีการเสี่ยงทายถึงความอุดมสมบูรณ์ที่จะเกิดขึ้นในแต่ละปี ผู้ที่เข้ามาร่วมงานยังจะได้ชมพระธาตุรวงข้าว ถือเป็นหนึ่งเดียวและเป็นอันซีน ของประเทศไทย ที่มีที่อำเภอสระใครเพียงแห่งเดียว ในประเทศไทยและในโลก องค์พระธาตุมีความกว้าง 7 เมตร สูงถึง 32 เมตร ใช้มัดข้าวนับแสนมัด รวงข้าวนับล้านรวงประดับตกแต่ง นอกจากนี้ยังมีขบวนรถบุพชาติพระธาตุรวงข้าวจำลองจากหมู่บ้านต่าง ๆ กว่า 10 ขบวนที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ที่มีความยิ่งใหญ่อลังการ มีการจัดทำโคมไฟข้าวตอกแตกที่มีความสวยงามนับร้อยโคม มาประดับตกแต่งตั้งแต่บริเวณทางเข้างานยาวไปตลอดตามถนนทั่วบริเวณงานและจัดทำเป็นอุโมงค์โคมไฟข้าวตอกแตกที่ยาวที่สุด และที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน คือการแสดง แสง สี เสียง ประกอบม่านน้ำพุดนตรี เป็นม่านน้ำพุบนบกที่ใหญ่ที่สุด ความยาวถึง 60 เมตรบนเวทีกลางแจ้ง และยังมีกิจกรรมการแสดงและกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย สำหรับสิ่งที่อยากให้นักท่องเที่ยวมาชมนั้น เนื่องจากองค์พระธาตุรวงข้าว ที่ถือเป็นหนึ่งเดียวในจังหวัดหนองคาย หนึ่งเดียวในประเทศไทย และหนึ่งเดียวในโลก นอกจากนี้ยังมีประตูสวรรค์ ที่ทำเป็นเสาโทริอิ แบบญี่ปุ่น ที่ตั้งอยู่โดยรอบ เป็นการผสมผสานวัฒนธรรมอีสาน บูรณาการกับวัฒนธรรมโลก และปีนี้ก็จะมีเช่นกันคือ หุ่นสานไม้ไผ่ขนาดใหญ่ ปีนี้จะมีการสร้างใหม่ ความสูงไม่ต่ำกว่า 4 เมตร สร้างตามความเชื่อโบราญของคนอีสาน เป็นการสร้างหุ่นประจำทิศ เช่นพญานาค ราชสีห์ พญาควาย และพญาช้าง เป็นต้น “จึงอยากเชิญชวน ประชาชนและนักท่องเที่ยว มาร่วมแรงร่วมใจกันเป็นหนึ่งเดียว สืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามที่มีมาแต่โบราณของประชาชนลุ่มน้ำโขง ให้โด่งดังและเป็นที่รู้จักกันไปถึงระดับโลก” นายเตชิต ทรงบุญศาสตร์ นายอำเภอสระใคร กล่าว รายงายโดย ภัทรวินทร์ ลีปาน