วันที่ 25 ม.ค.2563 นายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า หลังจาก สส.พรรคการเมืองหนึ่งเสียบบัตรแทนกันในการลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2563 จากนั้นมีความพยายามทั้งจาก สว. สส. องค์กรอิสระแสดงความเห็นว่าทำได้ไม่ขัดต่อกฎหมายนั้น เห็นว่า บัตรประจำตัว สส. เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะตัวของ สส. เจ้าของบัตรเพียงคนเดียว ไม่สามารถ มอบให้ผู้อื่นใช้สิทธิ์แทนได้ ดังนั้นอย่าพยายามหาทางออกโดยการตีความให้ผิดไปจาก ความสุจริต ตามวิถีทางในครรลองประชาธิปไตย สำหรับการกระทำดังกล่าวต้องถือว่ามีเจตนาทุจริต มีความผิดและมีโทษตามกฎหมาย ที่ผ่านมาเหตุการณ์เช่นเดียวกันในอดีตได้ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวางหลักเป็นบรรทัดฐานไว้แล้ว “ขอชื่นชมการแสดงความเห็นของ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ที่บอกว่าไม่ว่าจะเสียบแทนกันในกรณีใดก็ทำไม่ได้ แม้เครื่องลงคะแนนมีไม่พอและส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขา ด แต่กรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย ออกมาให้ความเห็นว่าอะไรถูกผิด ทำได้ทำไม่ได้ ตามกฎหมาย ทั้งที่คดียังไม่ไปสู่ศาลและยังไม่มีคำวินิจฉัยในกรณีนี้ รวมถึงหลายกรณีที่ผ่านมา จะโดยอาศัยหลักกฎหมายหรือหลักอภินิหารกฎหมาย จะถือเป็นการไม่สมควรหรือไม่ เพราะอาจทำให้สังคมเกิดความสับสน” นายชุมสาย กล่าว นายชุมสาย กล่าวอีกว่า นักกฎหมายโดยทั่วไปทราบว่าความยุติธรรมของประเทศต้องไม่มีอภินิหาร ศาลจะวินิจฉัยคดีตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายและ บรรทัดฐานที่ถูกวางหลักไว้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ไม่ได้ผูกพันเฉพาะคู่ความในคดี หรือเฉพาะคดีใดคดีหนึ่ง แต่ถือว่าเป็นการผูกพันในทุกคดีที่มีข้อหาและข้อเท็จจริง ไม่ใช่ประโยชน์ ของคู่ความฝ่ายใด โดยยึดเอาประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก