วันที่ 24 ม.ค.ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การยื่นคำร้องทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณีที่มีการเสียบบัตรแทน อาจจะทำให้มีปัญหากับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 63 ต้องตกไปนั้น ซึ่งตนเห็นว่าสาระสำคัญของคำร้องทั้ง 2 ฉบับ เกี่ยวกับเรื่องของการออกเสียงที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และทั้ง 2 คำร้อง ไม่ได้มีข้อความใดระบุว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 63 ขัดหรือแย้งรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญต้องพิจารณาตามคำร้องที่ยื่นไป ดังนั้น จึงเห็นว่า ไม่น่าที่จะทำให้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ63 ต้องตกไปอย่างแน่นอน “ผมมั่นใจ และเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบอะไรกับประเทศ เพราะที่ผ่านมา เมื่อปี 57 ผมเคยยื่นให้มีการตรวจสอบร่างพ.ร.บ.งบประมาณสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาแล้ว โดยมีการเข้าชื่อกันทั้ง ส.ส.และส.ว. ก็ไม่ได้ทำให้งบประมาณต้องตกไป และในครั้งนั้นศาลใช้ระยะเวลาในการพิจารณาเพียง 10 วัน ซึ่งตามกรอบสามารถพิจารณาได้ไม่น้อยกว่า 15 วัน จึงเชื่อว่า การวินิจฉัย ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 63 ศาลรัฐธรรมนูญจะใช้เวลาพิจารณาไม่น่าจะเกิน 15 วัน ก็จะไม่มีผลอะไร ผมมั่นใจมากว่าจะไม่ทำให้เกิดความเสียหายอย่างแน่นอน”นายไพบูลย์ กล่าว นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า กรณีการเสียบบัตรแทนกัน เป็นเพียงคนส่วนน้อย และต้องให้ความเป็นธรรมกับเสียงส่วนใหญ่ ที่มุ่งมั่นทำหน้าที่ด้วย การกดบัตรแทนกันนั้นแม้จะไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ แต่ก็ไม่ได้มีเสียงเพียงพอ ที่จะเปลี่ยนแปลงมติได้ หากจะวินิจฉัยให้ต้องตกไป ก็ถือว่าไม่เป็นธรรม กับ ส.ส.ส่วนใหญ่ ส่วนคนที่เสียบบัตรก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน