เป็นเวลากว่า 4 วันที่ “สรยุทธ สุทัศนจินดา” อดีตพิธีกรรายการเล่าข่าวชื่อดัง ถูกจำคุกในคดีไร่ส้ม หมายความว่าจากนี้ไป อดีตพิธีกรข่าวคนดัง ชีวิตจะแปรเปลี่ยนไป หมดอิสรภาพ ต้องเข้าไปสัมผัสกับโลกหลังเรือนจำเป็นเวลาเกือบ 7 ปี สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ม.ค.63 ที่ผ่านมาศาลฎีกา ได้อ่านคำพิพากษา สรยุทธ กรรมการผู้จัดการบริษัทไร่ส้ม ฐานเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิด การทุจริตค่าโฆษณาส่วนเกิน อสมท.เป็นเงิน 138 ล้านบาท เป็นเวลา 6 ปี 24 เดือน โดยไม่รอลงอาญา หลังจากที่เจ้าตัวใช้ระยะเวลาในการต่อสู้คดีมายาวนานกว่า 6 ปี ต้องยอมรับว่า คำพิพากษาของศาลฎีกา อันเป็นศาลสุดท้าย ที่ลงโทษให้จำคุกสรยุทธ โดยไม่รอลงอาญานั้นได้กลายเป็นข่าวใหญ่ ทั้งในแวดวงสื่อสารมวลชน และผู้คนในสังคมไม่น้อย เพราะอย่าลืมว่า ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก สรยุทธ อดีตพิธีกรข่าว ที่มีบุคลิกและเอกลักษณ์ ที่เข้มข้น ดุเดือด และโดดเด่น ทำให้คนข่าว ในแวดวงสื่อมวลชนเอง หวังที่จะเลียนแบบ แต่เมื่อวันนี้ สรยุทธ ได้ทิ้งบทบาทอดีตพิธีกรข่าวเอาไว้ภายนอก แล้วเดินเข้าไปสัมผัสโลกใบใหม่ที่เขาเองได้เปิดใจผ่านเฟชบุค เอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าไม่คิดที่จะหลบหนี และนี่คือบางส่วน บางตอนจากสรยุทธ์ “ กุมภาพันธ์ ปี 2559 ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาผม และผมต้องหยุดทำงานที่ผมเคยทำมาทุกวัน ทั้งที่ศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุด ใครไม่เป็นผม คงไม่รู้ว่ามันทุกข์ทรมานขนาดไหน กับการต้องตื่นขึ้นมาทุกวันแล้วไม่ได้ออกไปใช้ชีวิตของผมอย่างที่เคย ช่วงนั้นผมไม่กล้าแม้กระทั่งเปิดโทรทัศน์ อย่าว่าแต่รายการที่ตัวเองเคยทำ เพราะถ้าต้องเห็นสิ่งที่ผมรักและเคยทำมาตลอด มันจะหยุดน้ำตาของตัวเองไม่ได้ ผมทำได้อย่างเดียวคือ พยายามลืมชีวิตที่เคยเป็นมา สำหรับผม การต้องหยุดทำงาน เหตุเพราะคำพิพากษาของสังคม คือความทุกข์ทรมานที่สุดครั้งหนึ่งของชีวิต เพราะคือการห้ามผมใช้ชีวิต ไม่ใช่แค่การห้ามทำอาชีพของผม อิสรภาพในการใช้ชีวิตของผม หมดไปตั้งแต่เมื่อ 4 ปีก่อนแล้ว ผมติดคุกสังคมมา 4 ปีแล้ว ตลอด 4 ปี ของการต่อสู้คดีก็ไม่เคยมีความสุขเลยแม้แต่วันเดียว ความรู้สึกเสมือนยิ่งสู้ยิ่งแพ้ แต่ก็ต้องสู้ วันนี้ผมคงติดคุกตามคำพิพากษาสูงสุด ความยากลำบากเดียวคือ ทำใจ ซึ่งผมยังไม่รู้ว่า จะทำได้ขนาดไหน จะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ ที่จะทำความคุ้นเคยกับมัน แต่ที่สุดผมก็ต้องยอมรับให้ได้” ชีวิตที่เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ในโลกหลังเรือนจำของสรยุทธ ไม่เพียงแต่จะให้บทเรียนแก่ตัวสรยุทธเท่านั้น หากแต่ในแง่ของความเป็นสื่อมวลชนเองต่างทำให้หลายคนต้องตระหนักในบทบาทความเป็นสื่อ เป็นข่าวของตัวเอง สำหรับสรยุทธ์ ปัจจุบันอายุ 54 ปี เกิดเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2509 จบการศึกษาปริญญาตรีคณะนิเทศศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพ (เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง) เมื่อปี 2530 เริ่มต้นชีวิตทำงานในอาชีพนักข่าวที่ หนังสือพิมพ์เดอะ เนชั่น ทำข่าวสายการเมือง ต่อมาในปี 2535 ได้ประจำในกองบรรณาธิการ ในตำแหน่งผู้ช่วยหัวหน้าข่าวการเมือง และในปี 2537 ได้เลื่อนตำแหน่งมาเป็นหัวหน้าข่าวการเมือง ในปี 2540 ได้มาเป็นบรรณาธิการข่าว และจัดรายการวิเคราะห์ข่าวให้สถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ สุดท้ายเป็นรองบรรณาธิการบริหาร หนังสือพิมพ์ เดอะ เนชั่น ต่อมาสรยุทธ ได้ลาออกจากหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น แล้วไปเป็นผู้ดำเนินรายการข่าวทางช่อง 3 นอกจากนี้ยังดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ บริษัท ไร่ส้ม จำกัด และบริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด รายการข่าวที่โด่งดังเป็นที่รู้จัก ได้แก่ รายการเรื่องเล่าเช้านี้, เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ,คุยคุ้ยข่าว และ ถึงลูกถึงคน