วันที่ 20 ม.ค.63 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม.พร้อม รมช.กห.และคณะ ได้ลงปฏิบัติราชการในพื้นที่ จว.ปัตตานี โดยเดินทางไปเยี่ยมชม ศูนย์ควบคุมกล้องวงจรปิด ( CCTV ) ในพื้นที่เทศบาลเมืองปัตตานี พร้อมสั่งการให้เร่งปรับระบบกล้อง CCTV เป็นดิจิทัลและเสริมขีดความสามารถด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ( AI ) และพัฒนาความสมบูรณ์ของระบบอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบเฝ้าตรวจและแจ้งเตือนในการดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ และย้ำขอให้ความสำคัญกับระบบการทำงานและข้อมูลจากกล้อง CCTV โดยถือเป็นพยานและหลักฐานสำคัญของกระบวนการยุติธรรมต้นน้ำ ที่จะช่วยดำรงความยุติธรรมให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างเท่าเทียมกัน พร้อมทั้งขอให้เร่งรัดความคืบหน้าคดี รวมทั้ง บูรณาการงานการข่าวและแสวงความร่วมมือกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการป้องปรามและติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุที่สร้างความเสียหายกับชีวิต ทรัพย์สินและความปลอดภัยของประชาชน
ขณะเดียวกัน พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กห./ หน.คณะผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ได้แยกไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน ณ กอ.รมน.ภาค 4 (ส่วนหน้า) / ฉก.ปัตตานี โดยกล่าวขอบคุณและให้กำลังใจการปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็งของเจ้าหน้าที่ในนาม ของนรม.และ พล.อ.ประวิตร’ รองนรม. พร้อมกำชับการทำงานของเจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญกับงานข่าว และให้ดำรงความต่อเนื่องงานเชิงรุกและเพิ่มความเข้มข้นในการป้องกันและแก้ไขปัญหาแทรกซ้อน โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด รวมทั้งเน้นงานพัฒนาเพื่อความมั่นคงควบคู่กันไปกับการเสริมสร้างการอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง พร้อมกับย้ำ การปฏิบัติหน้าที่ต้องรอบคอบ ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ระมัดระวังและตื่นตัวอยู่เสมอ ไม่ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มที่ไม่หวังดี รวมทั้งต้องยึดหลักกฎหมายและสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด
ต่อจากนั้น ได้เดินทางไปศาลากลาง จว.ปัตตานี และร่วมรับฟังผลการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลจากหัวหน้าส่วนราชการ ฝ่ายปกครอง ทหารและตำรวจในพื้นที่ โดยสรุปภาพรวม การทำงานของเจ้าหน้าที่สามารถดูแลความปลอดภัยประชาชนได้อย่างทั่วถึงและคดีความมั่นคงในพื้นที่มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่จังหวัดปัตตานียังไม่มีการประกาศสถานการณ์ภัยแล้งและมีการเฝ้าระวังเป็นพื้นที่ สถานการณ์ยาเสพติด ยังมีการแพร่ระบาดเป็นรายหมู่บ้าน ตำบล
พล.อ.ประวิตร’ ได้กล่าวขอบคุณและเป็นกำลังใจในนาม นรม.ถึงเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ที่ร่วมกันขับเคลื่อนงานตามนโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมา พร้อมย้ำสั่งการขอให้มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน น้อมนำศาสตร์พระราชาและพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาสู่การปฏิบัติในการร่วมดูแลพี่น้องประชาชนทุกคนในพื้นที่อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน รับฟังกันและกันแม้มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ร่วมแก้ปัญหาในลักษณะของการมีส่วนร่วมกันด้วยเหตุด้วยผล สำหรับการแก้ปัญหายาเสพติด ขอให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาให้ครบวงจร ควบคุมและลดระดับความรุนแรงให้ได้ โดยเฉพาะการสกัดกั้นและการปราบปราม ซึ่งต้องทำควบคู่กับการบำบัดรักษา เพื่อดึงลูกหลานออกจากยาเสพติดไม่ให้กลับไปเสพซ้ำ
พร้อมทั้งให้สนับสนุนและร่วมมือกับภาคเอกชน วิเคราะห์ศักยภาพของพื้นที่ และวางแผนการพัฒนา เพื่อเพิ่มมูลค่าด้านเศรษฐกิจ ทั้งในด้านการพัฒนาระบบขนส่ง และมาตรการส่งเสริมการลงทุนต่างๆ เพื่อพัฒนาระบบเศรษฐกิจในพื้นที่ ให้ สามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประชาชน ควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีไปด้วยกัน และย้ำขอให้เร่งแก้ปัญหาภัยแล้งเร่งด่วน ด้วยการบริหารจัดการน้ำทั้งบนผิวดินและใต้ดินอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง ทั้งน้ำอุปโภคและบริโภค โดยเฉพาะในพื้นที่เฝ้าระวังให้สามารถบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างทั่วถึง
...................