ศอ.บต.จับมือคลัง ชงร้านค้าปลอดอากร ให้วงเงิน 20,000 บาทภายใน 30 วัน รับเศรษฐกิจนราธิวาส 5 ปีที่ผ่านมาทรุด โรงแรม-ธุรกิจ ทยอยปิดตัว เหตุความไม่สงบ กระทบจิตใจ
เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ด่านสุไหง-โกลก อ.สุไหง-โกลก จ.นราธิวาส ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ (ครม.สัญจร) จ.นราธิวาส ระหว่างวันที่ 20-21 ม.ค.โดยทางสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้นำคณะสื่อมวลชนมาร่วมสังเกตการณ์ ที่ด่านสุไหง-โกลก เมืองต้นแบบด่านการค้าชายแดน เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินนโยบายของรัฐบาลในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน (นราธิวาส ปัตตานี ยะลา) โดยมี พ.ต.ท.ธนากร สับประสาน สารวัตรตรวจคนเข้าเมือง นายจักกฤช อุเทนสูต นายด่านศุลกากรสไหง-โกลก ให้การต้อนรับ
นายจักกฤช เปิดเผยว่า ด่านสุไหง-โกลก ได้เปิดใช้งานมาเวลา 89 ปี โดยเน้นเรื่องความมั่นคง และอำนวยความสะดวกด้านการค้า โดยทำงานควบคู่กับกองทัพภาค 4 ในการแบ่งปันข้อมูล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนและยังมีระบบไบโอแมทริกซ์ เข้ามาใช้ในด่าน โดยสามารถใช้ตรวจอัตลักษณ์ได้ผลเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะผู้ต้องสงสัยและบุคคลที่ติดแบล็กลิสต์จะไม่สามารถผ่านด้านตรวจได้ ขณะที่มูลค่าการค้าอยู่ที่ 3,200 ล้านบาทต่อปี ซึ่งถือว่าไทยยังเสียดุลการค้าให้แก่มาเลเซียที่ส่วนใหญ่นำเข้าไม้แปรรูปและอาหารทะเลสด และสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่ดีทำให้มูลค่าการค้าลดลงเหลือ 2,000 ล้านบาท ทั้งจากอัตราแลกเปลี่ยน และการส่งออกของไทยที่ลดลง รวมถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ในจังหวัดชายแดนใต้ที่กระทบต่อความเชื่อมั่นและจิตใจของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ตลอดการเสนอข่าวสารของประเทศเพื่อนบ้าน ยิ่งทำให้ความเชื่อมั่นลดลง ส่งผลให้นักท่องเที่ยวลดลง ขณะที่โรงแรมและภาคธุรกิจต่างทยอยปิดตัวลงในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แต่ในปัจจุบันเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น มีผู้โดยสารเข้าออกด่านตรวจ 6,000-7,000 คนและรถยนต์ 200 คัน
“ทั้งนี้ในการประชุมครม.สัญจรครั้งนี้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จะเสนอขออนุมัติ เป็นแพ็คเกจใหญ่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง จะเสนอมาตรการร้านค้าปลอดอากร โดยให้คนไทยที่มีบัตรประชาชนมีสิทธิ์ซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดอากร (duty free) ที่ตั้งในพื้นที่ 3 อำเภอดังกล่าวได้ในวงเงิน 20,000 บาทภายใน 30 วัน โดยได้รับยกเว้นภาษี และอากรศุลกากร แต่ยังต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7 เปอร์เซ็นต์โดยไม่ต้องข้ามไปยังประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นโมเดลใหม่ของประเทศ ตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการสร้างโครงการเมืองต้นแบบ สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนในพื้นที่ 3 อำเภอใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้” นายจักกฤช กล่าว
นายจักกฤช เปิดเผยว่า ด่านสุไหง-โกลก ได้เปิดใช้งานมาเวลา 89 ปี โดยเน้นเรื่องความมั่นคง และอำนวยความสะดวกด้านการค้า โดยทำงานควบคู่กับกองทัพภาค 4 ในการแบ่งปันข้อมูล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนและยังมีระบบไบโอแมทริกซ์ เข้ามาใช้ในด่าน โดยสามารถใช้ตรวจอัตลักษณ์ได้ผลเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะผู้ต้องสงสัยและบุคคลที่ติดแบล็กลิสต์จะไม่สามารถผ่านด้านตรวจได้ ขณะที่มูลค่าการค้าอยู่ที่ 3,200 ล้านบาทต่อปี ซึ่งถือว่าไทยยังเสียดุลการค้าให้แก่มาเลเซียที่ส่วนใหญ่นำเข้าไม้แปรรูปและอาหารทะเลสด และสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่ดีทำให้มูลค่าการค้าลดลงเหลือ 2,000 ล้านบาท ทั้งจากอัตราแลกเปลี่ยน และการส่งออกของไทยที่ลดลง รวมถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ในจังหวัดชายแดนใต้ที่กระทบต่อความเชื่อมั่นและจิตใจของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ตลอดการเสนอข่าวสารของประเทศเพื่อนบ้าน ยิ่งทำให้ความเชื่อมั่นลดลง ส่งผลให้นักท่องเที่ยวลดลง ขณะที่โรงแรมและภาคธุรกิจต่างทยอยปิดตัวลงในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แต่ในปัจจุบันเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น มีผู้โดยสารเข้าออกด่านตรวจ 6,000-7,000 คนและรถยนต์ 200 คัน
“ทั้งนี้ในการประชุมครม.สัญจรครั้งนี้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จะเสนอขออนุมัติ เป็นแพ็คเกจใหญ่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง จะเสนอมาตรการร้านค้าปลอดอากร โดยให้คนไทยที่มีบัตรประชาชนมีสิทธิ์ซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดอากร (duty free) ที่ตั้งในพื้นที่ 3 อำเภอดังกล่าวได้ในวงเงิน 20,000 บาทภายใน 30 วัน โดยได้รับยกเว้นภาษี และอากรศุลกากร แต่ยังต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7 เปอร์เซ็นต์โดยไม่ต้องข้ามไปยังประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นโมเดลใหม่ของประเทศ ตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการสร้างโครงการเมืองต้นแบบ สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนในพื้นที่ 3 อำเภอใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้” นายจักกฤช กล่าว