“รมว.คลัง”พร้อมออกออกมาตรการชิมช้อปใช้เฟส 4กระตุ้นใช้จ่าย พร้อมใช้งบประมาณที่ ครม. เคยอนุมัติในโครงการให้หมด สั่ง สศค.หารูปแบบที่เหมาะสม นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ทำโครงการชิมช้อปใช้เฟส 4 หลังจากชิม ช้อป ใช้ ดำเนินการมาแล้ว 3 เฟส กำลังจะหมดอายุของโครงการในวันที่ 31 ม.ค.63 ดังนั้นหากงบประมาณของโครงการนี้ยังมีเหลืออยู่ อยากให้จัดทำโครงการนี้ต่อเนื่อง ภายใต้กรอบงบประมาณเดิมที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) ส่วนจะเริ่มโครงการได้เมื่อไหร่นั้น รูปแบบเป็นอย่างไรนั้น กระทรวงการคลังจะพิจารณาความเหมาะสม เน้นความต่อเนื่องของการกระตุ้นการบริโภค เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายภายในประเทศ รายงานข่าวเผยว่า คาดว่ามีงบประมาณเหลือจากชิมช้อปใช้ประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท โดยงบประมาณในโครงการนี้มีวงเงินที่ได้รับอนุมัติที่ 1.9 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นการเติมเงิน 1 พันบาทให้คนที่ลงทะเบียนสำเร็จรวม 13 ล้านคน เป็นเม็ดเงิน 1.3 หมื่นล้านบาท แต่มีการใช้เงินจริงไปเพียง 1.16 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือขึ้นอยู่กับคนที่ได้รับสิทธิ์จะนำเงินส่วนตัวไปใช้จ่ายเพื่อได้รับ Cash back 15-20% มากน้อยเพียงใด ซึ่งล่าสุดการใช้จ่ายผ่านกระเป๋าที่ 2 เป็นวงเงินกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งคิดเป็นเงินที่จ่ายคืนกว่า 2 พันกว่าล้านบาท สำหรับการใช้จ่ายในโครงการชิม ช้อป ใช้จนถึงวันที่ 1 ม.ค.63 มียอดรวม 2.69 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น ยอดใช้จ่ายผ่านกระเป๋าที่ 1(รัฐใส่เงินให้ 1 พันบาทเพื่อใช้จ่าย) 1.16 หมื่นล้านบาทและกระเป๋าที่สอง (Cash back 15-20% เมื่อใช้เงินตัวเองซื้อสินค้า) มียอดใช้จ่ายผ่านกระเป๋านี้ 1.53 หมื่นล้านบาท ซึ่งโครงการชิมช้อปใช้ มีมาทั้งหมด 3 เฟส โดยเฟสแรก เป็นการให้คนลงทะเบียน 10 ล้านคน ซึ่งคนที่ลงทะเบียนสำเร็จจะได้ทั้งเงินเติมในบัตร 1 พันบาทสำหรับใช้จ่าย และ Cash back 15 %,เฟสที่สองได้ขยายจำนวนคนที่ได้รับสิทธิ์ 1 พันบาทไปอีก 3 ล้านคน และเฟสที่สามเพิ่มสิทธิ์คนลงทะเบียนอีก 2 ล้านคน แต่ให้เฉพาะ cash back โดยเพิ่ม cash back จากเดิม 15% เป็นกรณียอดใช้จ่ายไม่เกิน 3 หมื่นบาทได้คืน 15 % และกรณียอดใช้จ่ายมากกว่า 3 หมื่นบาทแต่ไม่เกิน 5 หมื่นบาทได้รับคืน 20%