พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กชื่อพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ระบุว่า .. ‘ค่าโง่’ การทางพิเศษ พล.อ.ประยุทธ์ กำลังสร้างวัฒนธรรม ‘ปล่อยให้ผู้กระทำผิดลอยนวล’ !! ตามที่ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ อ.๙๓๒/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๑ ให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทยชำระค่าชดเชยรายได้ให้แก่บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด จากกรณีกรมทางหลวงดำเนินการก่อสร้างทางยกระดับดอนเมืองโทลเวย์ช่วงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ – รังสิต เป็นแข่งขันกับโครงการทางด่วนสายปะอิน – ปากเกร็ด ที่บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด ดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งขัดต่อข้อ สัญญาโครงการทางด่วนสายบางปะอิน – ปากเกร็ด ที่ได้ลงนามระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย กับ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด โดยให้ชำระค่าชดเชยรายได้ที่ลดลงเป็นเงิน สำหรับปี พ.ศ. ๒๕๔๒ จำนวน ๗๓๐,๘๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราที่กำหนดตามสัญญาข้อ ๒๕.๖ ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๔๓ เป็นต้นไป และสำหรับปี พ.ศ. ๒๕๔๓ จำนวน ประมาณ ๑,๐๕๙ ล้านบาทเศษพร้อมดอกเบี้ยในอัตราที่กำหนดตามสัญญาข้อ ๒๕.๖ ของต้นเงินดังกล่าวนับตั้งแต่วันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๔๔ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น ซึ่งถึงปัจจุบันรวมประมาณ ๔,๓๑๘ ล้านบาท เมื่อวันที่ ๖ มกราคม ๒๕๖๓ การประชุมเจรจาเพื่อหาแนวทางยุติข้อพิพาททางด่วนระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ที่เกิดจากสัญญาทางด่วนทั้งขั้นที่ ๑ และขั้นที่ ๒ ของ BEM ซึ่งหมดสัญญาสัมปทานลงในวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ จะมีผลทำให้ BEM จะต้องส่งทรัพย์สินทั้งหลายคืนให้กับ กทพ. ผลการเจรจาต่อรองตามที่ปรากฏที่ได้ข้อสรุปว่าเพื่อแลกกับการยุติการฟ้องคดีที่เคยเป็นข้อพิพาททั้งหมด จำนวน ๑๗ คดี โดยมีคดีที่สิ้นสุดแล้ว ๑ คดี (คดีพิพาทนี้) ซึ่งมีมูลค่าคดีเพียง ๔,๓๑๘ ล้านบาท คดีที่เหลืออ้างว่าจะยกเลิกการฟ้องทั้ง ๑๗ คดี มูลค่าคดีตอนฟ้องร้องเพียง ๑,๗๙๐ ล้านบาท เสมือนเป็นการสมคบกัน ที่ผลักภาระความเสียหายให้ประชาชนแทน เพราะเมื่อเทียบกับผลประโยชน์ที่ประเทศชาติจะได้รับ ถ้าหากให้ กทพ. ดำเนินการตามกฎหมาย และจะต้องไม่ต่อสัญญาสัมปทาน ตามข่าวจะต่อไปอีก ๑๕ ปี ๘ เดือน นั้นในงานเสวนาเสวนาของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เผยแพร่ เว็บไซต์ BUS & TRUCK เมื่อวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๖๒ สรุป เนื้อหาว่า (ตามที่แนบมา) “มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค ชี้ ต่อสัมปทานทางด่วนรัฐเสียประโยชน์กว่า ๒ แสนล้าน ประชาชน จ่ายแพงขึ้น ทั้งที่ไม่มีต้นทุนเพิ่ม” การเจรจาต่อรองในรูปแบบดังกล่าวมีความเสี่ยงสูงที่จะไม่จะสามารถยุติคดีได้จริง เนื่องจาก BEM เป็นบริษัทมหาชนที่มีผู้ถือหุ้นจำนวนมาก ดังเช่นตัวอย่างกรณี ระหว่างกรมทางหลวงกับบริษัทดอนเมืองโทลเวย์ ที่บริษัทยุติคดีแล้ว ในปี ๒๕๕๒ แต่บริษัทวอลเตอร์ บาว ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทดอนเมืองโทลเวย์ได้ฟ้องคดีกรมทางหลวง และคณะอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ มีคำสั่งให้ประเทศไทยจ่ายเงินจำนวน ๒๙.๒ ล้านยูโร หรือเท่ากับ ๙๘๘.๔๒ ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ ๑ ยูโร = ๓๓.๘๕ บาท) เป็นค่าชดเชย พร้อมทั้งค่าละเมิดสัญญาเป็นเงิน ๑.๙๘ ล้านยูโร หรือเท่ากับ ๖๗.๐๒ ล้านบาท การต่ออายุสัมปทานนอกจากเป็นการผลักภาระให้ประชาชนที่เป็นผู้บริโภคจะต้องจ่ายเงินค่า ‘ทางด่วน’ แพงขึ้นแล้ว รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ยังสร้างวัฒนธรรม “ปล่อยให้ผู้กระทำผิดลอยนวล” ด้วยการที่รัฐบาลละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต ไม่การดำเนินการสอบสวนกับผู้กระทำผิดจากการละเมิดที่เป็นเหตุให้รัฐเสียหายครั้งนี้แต่อย่างใด เพราะจากคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดดังกล่าว เห็นได้ชัดเจนว่า การที่รัฐต้องเสียหายเกิดมาการจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของคณะรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและเจ้าหน้าที่รัฐในขณะนั้น สมัยยุครัฐบาลเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๔๐ ถึงสิ้นปี ๒๕๔๑ ดังนั้น จึงควรดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด ตามนัยมาตรา ๘ ประกอบมาตรา ๙ แห่งพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ โดยเคร่งครัดต่อไป รัฐบาลมีหน้าที่ความรับผิดชอบเพื่อให้ทราบถึงตัวบุคคลผู้ที่กระทำการให้เกิดความเสียหาย เพื่อสร้างระบบนิติธรรมและเป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องและรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ มิใช่กระทำการเปลี่ยนมูลหนี้ที่เกิดขึ้นจากคำพิพากษาศาลมาเป็นการให้ประโยชน์แก่เอกชนในลักษณะอื่น ที่จะสุ่มเสี่ยงต่อความเสียหายในลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นอีก https://www.busandtruckmedia.com/17993/ พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ขอบคุณข้อมูลและภาพ เพจ - Tawee Sodsong - พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง