ใกล้จะถึงวันปีใหม่จีนอีกไม่นานถือเป็นฤกษ์งามยามดีในการหาโอกาสแวะเยี่ยมชมวัดและศาสนสถานต่าง ๆ เพื่อทำบุญและขอพร เสริมความเป็นสิริมงคล สร้างกำลังใจ ตลอดจนการแก้ชง โดยเฉพาะใครที่เป็นสายบุญ หรือสายมู(เตลู) ไม่ควรพลาดวัดดัง 9 แห่งประจำเกาะสิงคโปร์ ที่ได้ชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ และช่วยให้ผู้ที่มาขอพรสมปรารถนา วัดเซียน จู่ กง เริ่มต้นที่ วัดเซียน จู่ กง เป็นวัดจีนลัทธิเต๋าที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1867 โดยชุมชนพ่อค้าชาวจีนฮกเกี้ยนเพื่อถวายแด่เทพเจ้าตั่วแป๊ะกง หรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ วัดแห่งนี้จึงมีชื่อเสียงในการให้พรด้านโชคลาภความเป็นสิริมงคล รวมถึงขอพรให้เทพเจ้าช่วยปกป้องให้แคล้วคลาดจากศัตรูและภัยอันตรายต่าง ๆ โดยจะมีความศักดิ์สิทธิ์ด้านโชคลาภ ความเป็นสิริมงคล แคล้วคลาดจากภยันตราย  วัดตันสิชงชู ส่วน วัดตันสิชงชู เป็นวัดจีนฮกเกี้ยนโบราณถูกสร้างขึ้นโดยชาวจีนตระกูลตันที่อพยพมาช่วงปี ค.ศ. 1876-1878 เพื่อกราบไหว้บรรพบุรุษ ชื่อ ตันสิชงชู แปลตรงตัวได้ว่า สถานที่บูชาบรรพบุรุษตระกูลตัน เพราะฉะนั้นที่นี่จึงมีสถาปัตยกรรมตามแบบภาคใต้ของจีน ตั้งอยู่ในบริเวณที่ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย ใกล้กับแม่น้ำสิงคโปร์ และมีการตกแต่งประดับประดาไปด้วยรูปปั้นของสัตว์มงคลต่าง ๆ โดยผู้คนที่มาเยี่ยมเยือนวัดตันสิชงชูจะต้องมาขอพรที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ภายในบริเวณวัดที่เชื่อว่าให้พรด้านโชคลาภ ความรุ่งเรือง วัดซัมบาวัง ด้าน วัดซัมบาวัง มีจุดเด่น คือ รูปปั้นเทพเจ้าแห่งโชคลาภที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งตระหง่านอยู่เหนือหลังคาวัดด้วยความสูงเกือบ 10 เมตร และหนักกว่า 8 ตัน เป็นวัดจีนที่มีขนาดใหญ่สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2004 ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,800 ตารางเมตร ด้วยเหตุนี้ จึงได้รับความนิยมอย่างยิ่ง ทั้งจากนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเยี่ยมชมความสวยงาม และบรรดาคนทำงาน หรือนักธุรกิจที่ต้องมาขอพรให้ธุรกิจรุ่งเรือง ค้าขายคล่องตัว เนื่องจากชื่อเสียงความศักดิ์สิทธิ์ด้านโชคลาภ และการงาน วัดเจ้าแม่กวนอิม ขณะที่ วัดเจ้าแม่กวนอิม แห่งย่านจูเชียต คือหนึ่งในสองศาสนสถานบูชาเจ้าแม่กวนอิม เทพเจ้าแห่งความเมตตา ที่มีชื่อเสียงที่สุดในสิงคโปร์ เป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นพระจุณทีโพธิสัตว์ อันเป็นปางหนึ่งของเจ้าแม่กวนอิม มีความศักดิ์สิทธิ์ด้านขอพรเรื่องความรัก นอกจากความสวยงามของภาพวาดแกะสลักแบบจีนที่มีสีสันงดงามตระการตาแล้ว วัดแห่งนี้ยังมีความพิเศษตรงที่ได้หลอมรวมพุทธศาสนา ลัทธิเต๋า และลัทธิขงจื๊อ เข้าไว้ด้วยกันอย่างงดงาม วัดเยี่ยไห่ชิง สำหรับ วัดเยี่ยไห่ชิง เป็นวัดลัทธิเต๋าที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ สร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1850-1855 โดยชาวจีนแต้จิ๋วที่อพยพมาจากมณฑลกวางโจว ซึ่งภายในบริเวณวัดจะแยกเป็น 2 ส่วน ด้านซ้ายเป็นศาลาสำหรับบูชาเทพหม่าโจ่ว หรือเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ที่เชื่อกันว่า เป็นเทพผู้คุ้มครองนักเดินทางทางทะเลให้แคล้วคลาดปลอดภัย ส่วนด้านขวาเป็นศาลาสำหรับบูชาเทพเจ้าเซวียนเทียนซังตี้ หรือเทพบิดาแห่งสรวงสวรรค์ และนอกจากเทพหลักสององค์แล้ว ยังมีเทพองค์อื่น ๆ ที่เป็นที่นิยมในการสักการะบูชา โดยเฉพาะการคล้องด้ายแดงกับเฒ่าจันทรา เชื่อกันว่า จะให้พรด้านคู่ครองและความรัก รวมถึงเทพเจ้าเกี่ยวกับการขอบุตร และเทพที่ให้พรด้านการศึกษาอีกด้วย วัดเทียนฮกเก๋ง โดย วัดเทียนฮกเก๋ง หรือ วัดแห่งความสุขบนสรวงสวรรค์ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1839 ถือเป็นวัดจีนที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่เทพหม่าโจ่ว หรือเจ้าแม่ทับทิม ผู้เป็นเทพธิดาแห่งท้องทะเล ทั้งนี้ชาวจีนอพยพในยุคแรก ๆ เคยมาทำพิธีไหว้เพื่อขอบคุณองค์เทพเจ้าที่วัดแห่งนี้ที่ได้ปกป้องคุ้มครองให้พวกเขาเดินทางฝ่าคลื่นลมอันบ้าคลั่งในทะเลจีนใต้จนสามารถขึ้นฝั่งที่สิงคโปร์ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งในปัจจุบัน วัดเทียนฮกเก๋งมีชื่อเสียงเรื่องการขอบุตร และความสงบสุขชีวิตคู่ที่ยั่งยืนและราบรื่น นอกจากนี้ ผู้ที่แวะมาเยี่ยมเยือนยังจะได้พบกับสถาปัตยกรรมอันงดงามอลังการในสไตล์ศิลปะจีนทางตอนใต้แบบดั้งเดิม โดยหนึ่งในความพิเศษก็คือ ไม่มีการใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียวในการก่อสร้างวัดในครั้งแรก วัดเจ้าแม่กวนอิมท้งฮุดโจ้ว อีกทั้งยังมี วัดเจ้าแม่กวนอิมท้งฮุดโจ้ว เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ที่ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ ขอพรสิ่งใดก็มักได้ตามที่ปรารถนา ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จด้านการงาน หรือขอพรให้สุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว แต่ที่โด่งดังที่สุดคือการเสี่ยงเซียมซีที่ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แม่นมาก ทำให้ที่นี่มีผู้คนที่เดินทางมาสักการะบูชาเจ้าแม่กวนอิมอย่างเนืองแน่นอยู่เกือบตลอดเวลา วัดพระเขี้ยวแก้ว รวมถึง วัดพระเขี้ยวแก้ว ที่เป็นวัดขนาดใหญ่ อาคารสีแดงสด ตั้งอยู่ใจกลางไชน่าทาวน์ และถือเป็นแลนด์มาร์คที่โดดเด่นอีกแห่งหนึ่งของสิงคโปร์ วัดแห่งนี้มีความสวยงามทางสถาปัตยกรรมซึ่งออกแบบตามสมัยราชวงศ์ถัง ทำหน้าที่เป็นทั้งศาสนสถานและพิพิธภัณฑ์ ด้านบนมีสวนดอกไม้ และระฆังใหญ่ ภายในวัดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งก็คือพระทนต์ของพระพุทธเจ้า จึงเป็นที่มาของชื่อ วัดพระเขี้ยวแก้ว โดยความงดงามศักดิ์สิทธิ์ของสถานที่แห่งนี้ทำให้มีผู้คนจำนวนมากเดินทางมาไหว้พระขอพรเพื่อเสริมสิริมงคลให้แก่ตนเอง แก้ดวงปีชง และขอพรจากเทพเจ้าประจำปีเกิดให้คุ้มครองจากภยันตรายทั้งหลาย วัดศรีมาริอัมมัน สุดท้ายเป็น วัดศรีมาริอัมมัน ศาสนสถานฮินดูอันเก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ สร้างขึ้นเมื่อราวปี ค.ศ. 1827 โดยชาวอินเดียเพื่อถวายแด่เจ้าแม่มาริอัมมัน ซึ่งเชื่อว่า มีความศักดิ์สิทธิ์ในด้านการปกปักษ์คุ้มครองให้พ้นจากโรคภัยไข้เจ็บ รวมถึงรักษาโรคระบาด และอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ นอกจากชื่อเสียงด้านความศักดิ์สิทธิ์แล้ว วัดแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรมแบบดราวิเดียน ตัววัดประดับตกแต่งด้วยรูปปั้นเทพเจ้าในศาสนาฮินดู และสัตว์ในตำนานมากมายที่เต็มไปด้วยความวิจิตรงดงามสีสันสะดุดตา ถือเป็นศูนย์กลางสำหรับชุมชนชาวฮินดูในยุคบุกเบิก และยังคงความสำคัญสำหรับทั้งชาวฮินดูผู้เดินทางมาสักการะ รวมถึงชาวฮินดูในสิงคโปร์มาหลายชั่วอายุคน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ ประเทศสิงคโปร์ นอกจากมีสิงโตพ่นน้ำ ข้าวมันไก่ สวนสนุกแล้วยังอุดมไปด้วยสถานที่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรม โดยเฉพาะวัด มีทั้งวัดอินเดีย วัดไทย วัดจีน เนื่องจาก สิงคโปร์เป็นประเทศที่ประกอบด้วยคนหลายชาติพันธ์ เป็นประเทศที่อยู่ใกล้ไทย และได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ปลอดภัยอันดับต้นๆ