วันที่ 15 ม.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายกรณ์ จาติกวนิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีตรมว.คลัง ประกาศลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ว่า นายกรณ์ยังไม่เคยพูดกับตนถึงเรื่องดังกล่าว แต่ได้ทราบจากข่าวของสื่อมวลชนที่ระบุถึงเรื่องงานเลี้ยงเมื่อ และขณะนี้ ตนยังไม่ทราบเหตุผลของนายกรณ์ จึงขอให้เขาออกมาให้เหตุผลว่าเกิดจากอะไร ถ้าให้ตนพูดอะไรไปก่อน เกรงว่าจะไม่ตรง เมื่อถามว่าความสัมพันธ์ระหว่างนายจุรินทร์กับนายกรณ์เป็นอย่างไร เพราะมีข่าวที่ว่านายกรณ์ถูกลดบทบาทจากที่เคยเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรค นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่ได้มีปัญหากับนายกรณ์ ส่วนบทบาทหน้าที่นั้น นายกรณ์ทำหน้าที่ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎร แต่ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค ขณะที่การทำงานในทีมเศรษฐกิจของพรรคไม่ได้มีปัญหา เพียงแต่ช่วงหลัง เรามีคนรุ่นใหม่เข้ามาจำนวนมากช่วยเสริมทีมดังกล่าว อาทิ นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ที่ได้มาทำหน้าที่รองหัวหน้าพรรค และดูแลทีมเศรษฐกิจทันสมัย เพราะโลก ภาวะทางเศรษฐกิจ และกลไกรูปแบบต่างๆเปลี่ยนไป จึงมีความจำเป็นที่ต้องได้คนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมทีมในพรรคมากขึ้น ต่อข้อถามว่าดูเหมือนจะมีสมาชิกพรรคลาออกอีก หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องนี้ แต่พรรคประชาธิปัตย์อยู่มา 73 ปี ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านสถานการณ์ที่มีทั้งคนเข้าและออกในทุกยุคทุกสมัย ทั้งนี้ การที่ตนพูดเช่นนี้ไม่ได้หมายความอยากให้มีคนลาออก แต่มองว่าการเดินออกไปกับการเดินเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคเกิดขึ้นทุกสมัย โดยในปี 2562 มีคนลาออกจากสมาชิกพรรค 700-800 คน และมีผู้สมัครเป็นสมาชิกพรรค 14,000 คน อีกทั้งในเร็วๆนี้จะมีการเปิดตัวผู้ที่จะเข้ามาช่วยงานและผู้ให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะต้องหารือกับแกนนำพรรคคนอื่นๆหรือไม่ เพราะดูเหมือน แกนนำหลายๆคนในพรรคได้ลดบทบาทตัวเองลง นายจุรินทร์ กล่าวว่า ทุกคนในพรรคยังมีบทบาท ทั้งนายชวน หลีกภัย ที่แม้เป็นประธานรัฐสภา แต่ยังเป็นกำลังสำคัญให้พรรค เช่นเดียวกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน แม้เป็นอดีตหัวหน้าพรรค ยังมีความสัมพันธ์กับพรรคอยู่ ขณะที่การทำงานของกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ก็มีความก้าวหน้าและมีทิศทางในการนำพาพรรคไปข้างหน้าอย่างมียุทธศาสตร์ซึ่งจะต้องมีการจับมือกัน 3 ฝ่าย เดิน 3 ขาไปพร้อมกัน คือ คณะรัฐมนตรี สภา และคณะกรรมการบริหารพรรค ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นายกรณ์ลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีผลวันที่ 15 ม.ค.2563 ทำให้ต้องพ้นจากความเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อตามรัฐธรรมนูญด้วย โดยผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง ส.ส.แทน คือนายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 25 แต่เนื่องจาก นายดวงฤทธิ์ ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) และเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล) ทำให้นายจักพันธ์ ปิยพรไพบูลย์ ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 26 จะได้ขยับมาเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ แทนนายกรณ์ สำหรับนายจักพันธ์ หรือ สจ.เซ้ม เป็นอดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) เขต อ.ปราณบุรี และเป็นเจ้าของโควเซ้มฟาร์ม ฟาร์มไก่ชน ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ อีกทั้งเป็นบุตรชายนายวิรัช ปิยพรไพบูลย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์