ป้าวัย 56 ปีชาว​ จ.บุรีรัมย์ เหยื่อที่ค้ำประกัน จยย.ให้กับคนรู้จัก ถูกทนายฟ้องยึดบ้านและที่ดิน 14 ไร่ เริ่มมีความหวังมากขึ้น หลังบังคับคดีนัดเข้าสู่กระบวนเจรจาไกล่เกลี่ยขอซื้อทรัพย์สินคืนพรุ่งนี้ พร้อมวอนคู่กรณีเห็นใจเพราะหากครบกำหนดฟ้องขับไล่ออกจากบ้านจริง 27 ก.พ.ก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน วันนี้ (14 ม.ค.63) จากกรณีที่นางวัฒนา คงงาม หรือป้าวรรณ อายุ 56 ปี ชาวบ้านบ้านสายโท 2 ใต้ ต.ปราสาท อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ได้ขึ้นป้ายที่บริเวณหน้าบ้าน ข้อความว่า “ท่านนายกฯลุงตู่ ช่วยชาวบ้านด้วย ค้ำประกันรถมอเตอร์ไซค์ 80,000 บาท ยึดที่ดิน 14 ไร่ ถูกจับขังคุก ไม่มีที่ยืนในสังคมแล้ว เดือดร้อนมากจริงๆ” หลังจากไปค้ำประกันซื้อรถจักรยานยนต์ให้กับคนรู้จักต่างหมู่บ้าน แต่ผู้เช่าซื้อผิดนัดชำระติดค้างค่างวด 36 งวด แล้วถูกทนายความฟ้องให้รับผิดชอบทั้งค่ารถและดอกเบี้ยแทนผู้เช่าซื้อเป็นเงินทั้งสิ้น 82,040 บาท ซึ่งก็ได้มีการนัดไกล่เกลี่ยที่ศาลแต่ตนเองไม่ได้ไปเพราะป่วย ทางทนายจึงบอกให้เซ็นหนังสือมอบอำนาจไปแทน ด้วยความเชื่อใจและไม่ได้คิดว่าจะเกิดปัญหาอะไรจึงเซ็นมอบอำนาจไป หลังจากนั้นกลับมีป้ายมาติดที่บ้านว่าโดนยึดทรัพย์บ้านและที่ดิน 14 ไร่ที่อาศัยอยู่ปัจจุบันขายทอดตลาด ซึ่งทนายคนดังกล่าว ก็เป็นคนไปประมูลซื้อบ้านและที่ดินของตนเองในราคา 340,000 บาท ด้วยความที่ไม่รู้กฎหมายทนายบอกว่าไม่ต้องค้านเดี๋ยวจัดการให้เอง พอไปขอเจรจาซื้อบ้านและที่ดินคืนจากทนายในราคา 500,000 บาท กลับไม่ยอม แต่จะให้ซื้อคืนในราคา 4 ล้านบาท ทั้งนี้ยังได้มีการฟ้องขับไล่ให้ออกจากบ้านหลังดังกล่าวภายในวันที่ 27 ก.พ.ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ ต่อมานางวัฒนา หรือป้าวรรณ ก็ได้ไปร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด , สภาทนายความ และสำนักงานบังคับคดีจังหวัดนางรอง เพราะถือเป็นความไม่รู้กฎหมายของชาวบ้าน ซึ่งล่าสุดทางสำนักงานบังคับคดีจังหวัดนางรอง ก็ได้นัดให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาเข้าสู่กระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ยที่สำนักงานบังคับคดี ในวันพรุ่งนี้ (15 ม.ค.) ซึ่งเป็นการเจรจาประนีประนอมภายหลังการขายทอดตลาด และเป็นความสมัครใจของทั้งสองฝ่ายว่าจะเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยหรือไม่ ซึ่งจากการสอบถามป้าวรรณ บอกว่า หลังจากมีหน่วยงานต่างๆ ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือก็รู้สึกมีความหวังมากขึ้น และพรุ่งนี้ก็เตรียมจะเดินทางไปเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยที่สำนักงานบังคับคดี ซึ่งตนเองก็อยากจะขอซื้อบ้านและที่ดินคืนจากคู่กรณีในราคาที่พอจะสู้ไหวคือ 500,000 บาท จากราคาขายทอดตลาด 340,000 บาท ก็อยากจะขอความเห็นใจจากคู่กรณีด้วย เพราะหากครบกำหนดที่ถูกฟ้องขับไล่ออกจากบ้านในวันที่ 27 ก.พ. ที่จะถึงนี้ ตนเองพร้อมครอบครัวและลูกหลาน ที่มีบ้านอยู่ในที่ดินดังกล่าวรวมจำนวน 3 หลัง ก็ไม่รู้จะย้ายออกไปอยู่ที่ไหน