เมื่อเวลา 13.00 น วันที่14 ม.ค. พ.ต.ท.เศกสิทธิ์ แพลอย สว.(สอบสวน)สน.ตลิ่งชัน รับแต้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปในห้องเคียงเดือน ซึ่งเป็นสำนักงานของสวนอาหารบ้านดาวล้อมเดือน เลขที่19/18 ถนนราชพฤกษ์ แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนไปตรวจสอบ พร้อมพล.ต ต เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.7 พ.ต.ท.สิทธิกร วัชระทิพากร รอง ผกก.ป.รรท.ผกก.สน.ตลิ่งชัน พ.ต.ทพลัฎฐ์ ทับทิม รอง ผกก.สส.บกน.7 ฝ่ายสืบสวนสน.ตลิ่งชัน กก.สส.บกน.7 เจ้าหน้าที่สายตรวจรวมกว่า30นาย และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุแบ่งเป็นสวนอาหารบ้านดาวล้อมเดือน ประมาณ50 เปอร์เซ็นต์ ด้านหน้าเป็นออฟฟิศของสวนอาหาร ด้านซ้ายเป็นบริษัท อินเตอรโฟนิค (ประเทศไทย)จำกัด และบริษัท ฟรีวาเลนซ์ เทคโนโลยี จำกัด ด้านขวาเป็นบ้านของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมต. เกษตรและสหกรณ์ ทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ 5 ไร่ มีรั้วรอบขอบชิด
โดยจุดเกิดเหตุ เป็นสำนักงานชื่อห้องเคียงเดือนตั้งอยู่ตรงทางเข้า บริเวณผนังยิบซั่ม พบรอยหัวกระสุนปืนขนาด9 มม. เป็นรูสูงจากพื้นประมาณ150 ซ.ม. แรงกระสุนทะลุไปถึงประตูกระจกด้านหน้าแตกเป็นรูใหญ่กว้างประมาณ 3 .ม. กระสุนยังพุ่งไปชนหลังคาเตนท์ที่ใช้จอดรถเป็นรูอีก2แห่ง แต่ไม่พบหัวกระสุนแต่อย่างใด
สอบสวนนาง อัมพร พิมวัน อายุ 60ปี พนักงานเสมียน ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลา11.07 น.กำลังนั่งทำงานอยู่โต๊ะ ช่วงกำลังก้มเขียนหนังสือ ได้มีกระสุนปริศนาทะลุมาจากด้านหลัง ระดับเดียวกับศีรษะตนพอดี ผงยิบซั่มกระจายเต็มห้อง ตนรู้สึกมึนหัว เพราะหัวกระสุนห่างศีรษะตนแต่1นิ้ว และทะลุประตูกระจกไปอีก ตนไม่เคยมีปัญหากับใคร และไม่รู้ด้วยว่าคนร้ายยิงเข้ามาเพื่ออะไร
ด้านนายชูเกียรติ จันทร์ทอง อายุ60 ปี พ่อบ้านของนายเฉลิมชัย กล่าวว่า นายเฉลิมชัย มีความสนิทสนมกับนายชาญ สุดสิ้น เจ้าของสวนอาหารบ้านดาวล้อมเดือน จึงมาขอเช่าบ้านอยู่ในพื้นที่ร้านพื้นที่ประมาณ2งาน มีเพียงตัวบ้านและลานจอดรถเท่านั้น ซึ่งก็อยู่ห่างจากจุดที่ถูกยิงประมาณ30 เมตร ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับนายเฉลิมชัย นายเฉลิมชัยพักและนอนที่นี่ทุกคืน ช่วงเช้าออกจากบ้านไปประมาณ07.30 น.เพราะมีประชุมครม. เรื่องนี้ได้รายงานให้นายเฉลิมชัยทราบแล้ว ส่วนตัวตนคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับนายเฉลิมชัย เพราะไม่เคยมีปัญหากับใคร ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวตสอบกล้องวงจรปิดหน้าร้าน และบริเวณใกล้เคียงเพื่อดูว่าคนร้ายมากันกี่คนและใช้พาหะนะชนิดใดกันแน่ สำหรับบ้านของนายเฉลิมชัยนั้น มึการจัดเลี้ยงทีมงานทุกอาทิตย์ และยังใช้เป็นสถานที่ประชุมย่อยของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ อาจไม่เกี่ยวข้องกับการยิงในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญไปทางด้านความขัดแย้งภายในของบริษัทของนายชาญ สุดสิ้น ที่ทำร่วมกับนายยิ่งยศ ผการัตน์วิภาศ
ที่เกิดเหตุแบ่งเป็นสวนอาหารบ้านดาวล้อมเดือน ประมาณ50 เปอร์เซ็นต์ ด้านหน้าเป็นออฟฟิศของสวนอาหาร ด้านซ้ายเป็นบริษัท อินเตอรโฟนิค (ประเทศไทย)จำกัด และบริษัท ฟรีวาเลนซ์ เทคโนโลยี จำกัด ด้านขวาเป็นบ้านของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมต. เกษตรและสหกรณ์ ทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ 5 ไร่ มีรั้วรอบขอบชิด
โดยจุดเกิดเหตุ เป็นสำนักงานชื่อห้องเคียงเดือนตั้งอยู่ตรงทางเข้า บริเวณผนังยิบซั่ม พบรอยหัวกระสุนปืนขนาด9 มม. เป็นรูสูงจากพื้นประมาณ150 ซ.ม. แรงกระสุนทะลุไปถึงประตูกระจกด้านหน้าแตกเป็นรูใหญ่กว้างประมาณ 3 .ม. กระสุนยังพุ่งไปชนหลังคาเตนท์ที่ใช้จอดรถเป็นรูอีก2แห่ง แต่ไม่พบหัวกระสุนแต่อย่างใด
สอบสวนนาง อัมพร พิมวัน อายุ 60ปี พนักงานเสมียน ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลา11.07 น.กำลังนั่งทำงานอยู่โต๊ะ ช่วงกำลังก้มเขียนหนังสือ ได้มีกระสุนปริศนาทะลุมาจากด้านหลัง ระดับเดียวกับศีรษะตนพอดี ผงยิบซั่มกระจายเต็มห้อง ตนรู้สึกมึนหัว เพราะหัวกระสุนห่างศีรษะตนแต่1นิ้ว และทะลุประตูกระจกไปอีก ตนไม่เคยมีปัญหากับใคร และไม่รู้ด้วยว่าคนร้ายยิงเข้ามาเพื่ออะไร
ด้านนายชูเกียรติ จันทร์ทอง อายุ60 ปี พ่อบ้านของนายเฉลิมชัย กล่าวว่า นายเฉลิมชัย มีความสนิทสนมกับนายชาญ สุดสิ้น เจ้าของสวนอาหารบ้านดาวล้อมเดือน จึงมาขอเช่าบ้านอยู่ในพื้นที่ร้านพื้นที่ประมาณ2งาน มีเพียงตัวบ้านและลานจอดรถเท่านั้น ซึ่งก็อยู่ห่างจากจุดที่ถูกยิงประมาณ30 เมตร ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับนายเฉลิมชัย นายเฉลิมชัยพักและนอนที่นี่ทุกคืน ช่วงเช้าออกจากบ้านไปประมาณ07.30 น.เพราะมีประชุมครม. เรื่องนี้ได้รายงานให้นายเฉลิมชัยทราบแล้ว ส่วนตัวตนคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับนายเฉลิมชัย เพราะไม่เคยมีปัญหากับใคร ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวตสอบกล้องวงจรปิดหน้าร้าน และบริเวณใกล้เคียงเพื่อดูว่าคนร้ายมากันกี่คนและใช้พาหะนะชนิดใดกันแน่ สำหรับบ้านของนายเฉลิมชัยนั้น มึการจัดเลี้ยงทีมงานทุกอาทิตย์ และยังใช้เป็นสถานที่ประชุมย่อยของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ อาจไม่เกี่ยวข้องกับการยิงในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญไปทางด้านความขัดแย้งภายในของบริษัทของนายชาญ สุดสิ้น ที่ทำร่วมกับนายยิ่งยศ ผการัตน์วิภาศ