กระหึ่ม!วงการนกแข่ง "นกพิราบจากฮักเก้น มุลเลอร์ ทีมเอ" ประเทศเยอรมนี สุดทรหดบินลัดฟ้าฝ่าสายฝนเร็วสุด! เฉือนชนะ "นกพิราบ จากวิบูลย์ กุลธิวิลาศ" ทีมเอ ประเทศไทย ไปเพียง 0.5 วินาที คว้าแชมป์"นกพิราบแข่งนานาชาติ พัทยา" ครั้งที่ 4 จากนกแข่งทั้งหมด 1,941 ตัว ครองถ้วยพระราชทาน "พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว" รัชกาลที่ 10 พร้อมรับเงินรางวัล 4 ล้านบาท
การแข่งขันนกพิราบแข่งนานาชาติ พัทยา ครั้งที่ 4 (The 4th Pattaya International Pigeon Race) ซึ่งเป็นรูปแบบการแข่งขันแบบ One Loft Race ที่ได้รับการรับรองจาก FCI Federation Colombophile Internationale – FCI Racing Pigeons Grand Prix องค์กรนกพิราบแข่งระดับโลก ซึ่งจัดขึ้นโดย พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล พีเจ้น เรซ PIPR โดยเข้าสู่การแข่งขันในจุดสุดท้ายระยะทาง 530 กม.จาก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ถึง กรงนกพิราบแข่งนานาชาติ พัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งการแข่งขันในปีนี้ ถือเป็นการแข่งขันครั้งประวัติศาสตร์ เพราะมีนกพิราบแข่งจากเมืองไทยและต่างประเทศจากทั่วโลก ส่งมาร่วมการแข่งขันมากเป็นประวัติศาสตร์วงการนกพิราบแข่งไทย ที่มีจำนวนมากถึง 5,095 ตัว จาก 38 ประเทศทั่วโลก
เริ่มการแข่งขันปล่อยนก จาก อ.สิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี เวลา 07.15 น. ผลปรากฏว่า นกพิราบที่บินลัดฟ้าฝ่าสายฝนเร็วสุด คว้ารางแชมป์ได้แก่ นกพิราบจาก ฮักเก้น มุลเลอร์ ทีม เอ ประเทศเยอรมัน เข้าถึงเวลา 15:08:12น. ครองถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พร้อมรับเงินรางวัล 4 ล้านบาท ขณะที่อันดับ 2 ตกเป็นของ นกพิราบจากวิบูลย์ กุลธิวิลาศ ทีมเอ ของประเทศไทย เข้าถึงเวลา 15:08:17น. รับเงินรางวัล 800,000 บาท และอันดับ 3 เป็นนกพิราบจาก โอบิด วาสซิม ทีมเอ จากประเทศคูเวต รับเงินรางวัล 500,000 บาท
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะประธานงานเลี้ยงต้อนรับนักเลี้ยงนกจากทั่วโลกที่มาร่วมการแข่งขันมากกว่า 1,000 คน กล่าวว่า การแข่งขันในปีนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีนกพิราบแข่งจากหลายประเทศทั่วโลกมาร่วมการแข่งขันกันมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทย สาเหตุที่มีผู้ส่งนกเข้าแข่งขันเพิ่มขึ้นทุกปี เป็นเพราะการจัดแข่งขันที่ทันสมัยขึ้น ยุติธรรม โปร่งใสมาก ทำให้เมืองไทยจัดการแข่งขันนกพิราบระดับโลกได้ดีมากจนมีหลายประเทศเข้ามาร่วมการแข่งขันมากขึ้น ซึ่งตนเคยบอกไว้แล้ว นกพิราบเป็นกีฬาระดับโลก หลายประเทศสนับสนุน ส่งเสริมการแข่งขันอย่างเป็นระบบ
คุณสมบัติของนกพิราบแข่งใครก็เลี้ยงได้ สะอาด และเป็นสัตว์ที่มีประสาทสัมผัสเป็นอย่างดีในการที่จะหาทางกลับมาสู่ถิ่นฐานที่จากมา แม้ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหนก็ตาม ซึ่งตอนนี้ทั่วโลกกำลังนิยมเลี้ยงได้ทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าอายุจะต่างกัน คนรวย คนจน ก็เป็นเพื่อนกันได้คุยกันได้ทุกระดับ เพราะพูดเรื่องเดียวกัน
การแข่งขันนกพิราบแข่งนานาชาติ พัทยา ครั้งที่ 4 (The 4th Pattaya International Pigeon Race) ซึ่งเป็นรูปแบบการแข่งขันแบบ One Loft Race ที่ได้รับการรับรองจาก FCI Federation Colombophile Internationale – FCI Racing Pigeons Grand Prix องค์กรนกพิราบแข่งระดับโลก ซึ่งจัดขึ้นโดย พัทยา อินเตอร์เนชั่นแนล พีเจ้น เรซ PIPR โดยเข้าสู่การแข่งขันในจุดสุดท้ายระยะทาง 530 กม.จาก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ถึง กรงนกพิราบแข่งนานาชาติ พัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งการแข่งขันในปีนี้ ถือเป็นการแข่งขันครั้งประวัติศาสตร์ เพราะมีนกพิราบแข่งจากเมืองไทยและต่างประเทศจากทั่วโลก ส่งมาร่วมการแข่งขันมากเป็นประวัติศาสตร์วงการนกพิราบแข่งไทย ที่มีจำนวนมากถึง 5,095 ตัว จาก 38 ประเทศทั่วโลก
เริ่มการแข่งขันปล่อยนก จาก อ.สิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี เวลา 07.15 น. ผลปรากฏว่า นกพิราบที่บินลัดฟ้าฝ่าสายฝนเร็วสุด คว้ารางแชมป์ได้แก่ นกพิราบจาก ฮักเก้น มุลเลอร์ ทีม เอ ประเทศเยอรมัน เข้าถึงเวลา 15:08:12น. ครองถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พร้อมรับเงินรางวัล 4 ล้านบาท ขณะที่อันดับ 2 ตกเป็นของ นกพิราบจากวิบูลย์ กุลธิวิลาศ ทีมเอ ของประเทศไทย เข้าถึงเวลา 15:08:17น. รับเงินรางวัล 800,000 บาท และอันดับ 3 เป็นนกพิราบจาก โอบิด วาสซิม ทีมเอ จากประเทศคูเวต รับเงินรางวัล 500,000 บาท
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะประธานงานเลี้ยงต้อนรับนักเลี้ยงนกจากทั่วโลกที่มาร่วมการแข่งขันมากกว่า 1,000 คน กล่าวว่า การแข่งขันในปีนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีนกพิราบแข่งจากหลายประเทศทั่วโลกมาร่วมการแข่งขันกันมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทย สาเหตุที่มีผู้ส่งนกเข้าแข่งขันเพิ่มขึ้นทุกปี เป็นเพราะการจัดแข่งขันที่ทันสมัยขึ้น ยุติธรรม โปร่งใสมาก ทำให้เมืองไทยจัดการแข่งขันนกพิราบระดับโลกได้ดีมากจนมีหลายประเทศเข้ามาร่วมการแข่งขันมากขึ้น ซึ่งตนเคยบอกไว้แล้ว นกพิราบเป็นกีฬาระดับโลก หลายประเทศสนับสนุน ส่งเสริมการแข่งขันอย่างเป็นระบบ
คุณสมบัติของนกพิราบแข่งใครก็เลี้ยงได้ สะอาด และเป็นสัตว์ที่มีประสาทสัมผัสเป็นอย่างดีในการที่จะหาทางกลับมาสู่ถิ่นฐานที่จากมา แม้ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหนก็ตาม ซึ่งตอนนี้ทั่วโลกกำลังนิยมเลี้ยงได้ทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าอายุจะต่างกัน คนรวย คนจน ก็เป็นเพื่อนกันได้คุยกันได้ทุกระดับ เพราะพูดเรื่องเดียวกัน