เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 11 ม.ค.ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายบุญทวี สาลี ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลศรีวิไล ต.ศรีวิไล อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ หรือสพป.บึงกาฬ ว่าในโรงเรียนอนุบาลศรีวิไล มีเด็กเก่งเกินวัยอยู่ 2 คน คนหนึ่งเก่งภาษาอังกฤษและภูมิศาสตร์ อีกคนเก่งร้องเพลงและกตัญญู วันเด็กปีนี้จึงอยากให้เด็กๆ มารู้จักกับทั้ง 2 คนนี้ เผื่อจะได้เอาเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับเด็กคนอื่นๆ ที่จะเป็นอนาคตของชาติในวันข้างหน้า คนแรก ด.ช.จักรพงษ์ แสงกล้า อายุ 9 ปี หรือน้องออโต้ อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 มีความสามารถและเก่งภาษาอังกฤษและแผนที่ภูมิศาสตร์ของโลก สามารถแนะนำตัว สนทนาเป็นภาษาอังกฤษและบอกแผนที่ตั้งของแต่ละทวีปในโลกพร้อมกับประเทศที่อยู่ในทวีปนั้นๆ ได้อย่างแม่นยำ การรันตีด้วยการวัด IQ หรือความสามารถทางเชาวน์ปัญญาที่พุ่งสูงถึง 140 ถือได้ว่าอยู่ในระดับปัญญาเลิศ น.ส.ชุติกา เหมคม ครูสอนภาษาอังกฤษ กล่าวว่าสำหรับน้องออโต้ ถือว่าเป็นเด็กเก่งและน่ารักโดยเฉพาะวิชาอังกฤษและภูมิศาสตร์ ซึ่งน้องสามารถที่จะบูรณาการทั้งสองวิชานี้ให้อยู่ด้วยกันได้ ส่วนวิชาอื่นๆก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีถึงดีมาก และสามารถเป็นผู้นำให้กับเพื่อนๆ ที่อยู่ในห้องเรียนได้ ผลการเรียนถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมาก อยู่ในอันดับต้นๆ ของชั้นเรียน และยังเป็นตัวแทนของโรงเรียนไปแข่งขันในรายการต่างๆ เช่น การเล่านิทาน การพูด น้องจะมีพรสวรรค์ในการพูดทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ส่วนอีกคนคือ ด.ช.ชัยพัชร์ เฉยสูงเนิน อายุ 9 ปี หรือน้องบาส แชมป์ไมค์ทองคำเด็กปี 3 เป็นเด็กน้อยยอดกตัญญู ที่เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 น้องบาสเป็นเด็กเรียนดีมาก เกรด 4 ทุกวิชา มีความสามารถพิเศษด้านร้องเพลง จึงไปเข้าแข่งขันรายการ “ไมค์ทองคำ” เพื่อหารายได้ช่วยเหลือครอบครัวปัจจุบันครอบครัวน้องบาส ประกอบอาชีพค้าขาย โดยเช่าห้องแถวขายขนมอยู่ภายในตลาดศรีวิไล เทศบาลตำบลศรีวิไล ทุกวันน้องบาสจะช่วยเหลือพ่อแม่ทำงานบ้าน ล้างถ้วยล้างจานเปิดร้านขายของในกลางดึกพอตอนเช้าไปเรียนหนังสือ ตกเย็นเลิกเรียนกลับมาช่วยเหลือคุณแม่ขายของในตลาดอีกจนถึงปิดร้านเข้านอน หากเสาร์-อาทิตย์ หรือวันไหนที่ว่างก็จะร้องเพลงเปิดหมวกตามตลาดนัดต่างๆ เพื่อหาเงินช่วยเหลือพ่อกับแม่ หรือขึ้นเวทีโชว์ลูกคอร้องเพลงตามเวทีต่างๆ ที่ว่าจ้างไปร้องเพลงอีกทางหนึ่ง น.ส.ฐาปนี มหิมา ครูประจำชั้นของน้องออโต้และน้องบาส กล่าวว่า น้องบาสเป็นเด็กที่น่ารัก มีความโอบอ้อมอารี มีน้ำใจต่อเพื่อนๆ และเป็นเด็กกตัญญูที่เด็กๆ ทุกคนควรน่าเอาเป็นแบบอย่าง ครอบครัวของน้องบาสเป็นครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบเท่าไร เพราะพ่อกับแม่ก็ป่วย ด้วยความที่ต้องสู้ชีวิตหลังเลิกเรียนไปบาสก็ต้องไปขายของช่วยแม่เพื่อหารายได้ หรือบางทีก็ไปเปิดหมวกร้องเพลงหารายได้อีกช่องทางหนึ่ง ซึ่งถือว่าเด็กทั้ง 2 คนเก่งทั้งการเรียน ทั้งการใช้ชีวิต ทั้งความกตัญญูที่มีแต่พ่อกับแม่ เด็กๆ หลายคน สมควรเอาเป็นตัวอย่าง และในวันเด็กนี้ก็ขอให้เด็กๆ ทุกคนจงตั้งใจเรียน หมั่นศึกษาหาความรู้ กตัญญูต่อพ่อแม่ เป็นคนดีของชาติบ้านเมืองต่อไปในอนาคต ตามเจตนารมณ์ของคำขวัญวันเด็ก เนื่องใน วันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2563 คือ “เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย”ที่ท่านพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้ไว้. นิธิศักดิ์ เศรษฐแสงศรี//บึงกาฬ