ฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า นำชุดเฉพาะกิจ อส.ตะกั่วป่า ที่ 7 บุกจับสาว 21 ปี เปิดบ้านขายพืชใบกระท่อม และยาแก้ไอส่วนผสม 4 คูณร้อยให้กลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่พบของกลางยาแก้ไอจำนวน 24 ขวด และพืชใบกระท่อมจำนวน 3 กิโลกรัม เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 63 ภายใต้การอำนวยการของ ว่าที่ร้อยเอก พงศ์ศักดิ์ เวทยาวงศ์ นายอำเภอตะกั่วป่า/ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอตะกั่วป่า นายสมศักดิ์ ชูแสง ปลัดอำเภออาวุโส อ.ตะกั่วป่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่ทำการปกครองอำเภอตะกั่วป่า นำโดย นายอาทิตย์ เพ็ชร์กุล ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.ตะกั่วป่า/เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และนายภานุวัฒน์ สองเมือง ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.ตะกั่วป่า พร้อมด้วย สมาชิก อส.สังกัด กองร้อย อส.อ.ตะกั่วป่า ที่7 ประกอบด้วย นายหมู่ใหญ่ชาตรี พรหมคีรี นายหมู่โทธีระสิทธิ์ จันเพชร์ สมาชิกเอกธำรง บำรุงมิตร สมาชิกเอกพรชัย แก้วประเสริฐ สมาชิกเอกทรงธรรม ชูช่วย สมาชิกเอกวิเชียร ธรรมบุตร สมาชิกตรีชลชัย เชาว์พานิช อส.ฤทธิชัย พลอยขาว อส.ภานุพงศ์ ยงกุล และ อส.สุขสันต์ สมทรัพย์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตำบลคึกคักประกอบด้วยนายทรงศรี นพฤทธิ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ต.คึกคัก นายสถาพร ชนะการ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ต.คึกคัก ได้ร่วมจับกุมนางสาวหฤทัย บุตรราช อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 หมู่ที่ 2 ซอย 46 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา พร้อมด้วยของกลางยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ใบพืชกระท่อมทำเป็นมัดน้ำหนักรวมประมาณ 3 กิโลกรัม ยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อมจำนวน 24 ขวด จากการจับกุมได้ในครั้งนี้สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า ได้รับแจ้งว่า ในพื้นที่หมู่ที่ 6 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา มีการลักลอบจำหน่ายใบพืชกระท่อมและยาแก้ไอให้แก่วัยรุ่นและประชาชนทั่วไปเพื่อนำไปเป็นส่วนผสมในการผลิตน้ำต้มพืชกระท่อม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้วางแผนทำการจับกุม โดยให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมปลอมตัวเป็นผู้เสพนำเงินล่อซื้อจำนวน 260 บาท ซึ่งลง ปจว. ณ ที่ว่าการอำเภอตะกั่วป่าไว้เป็นหลักฐานแล้ว เดินทางไปล่อซื้อใบพืชกระท่อมจำนวน 1 มัดๆละ 24 ใบ และยาแก้ไอจำนวน 1 ขวด (จากข้อมูลทราบว่าจำหน่ายกระท่อมมัดละ 100 บาท และยาแก้ไอจำหน่ายขวดละ 150 บาท) ที่บ้านเลขที่ 40/174 ม.6 ต.บางม่วง จากผู้ต้องหา เจ้าหน้าชุดจับกุมซึ่งปลอมตัวจึงได้แสดงตัว พบเงินล่อซื้ออยู่ในมือด้านขวาของผู้ต้องหา จากนั้นได้ส่งสัญญาณให้ชุดจับกุมที่เหลือซึ่งเดินทางติดตามไปซุ่มสังเกตการณ์อยู่บริเวณใกล้เคียงทราบ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทั้งหมดจึงได้เดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าว เพื่อทำการตรวจสอบ ผู้ต้องหาแสดงตัวเป็นผู้ครอบครองบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวและเข้าทำการตรวจค้นบ้านดังกล่าว โดยได้แสดงบัตรเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และใช้อำนาจตามตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด พ.ศ. 2519 มาตรา 14(1) เข้าไปในเคหสถาน หรือสถานที่เพื่อตรวจค้นเมื่อมีเหตุอันควรสงสัย ตามสมควรว่ามีบุคคลที่มีเหตุอันควรสงสัยว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดหลบซ่อนอยู่ หรือมีทรัพย์สินซึ่งมีไว้เป็นความผิดหรือได้มาโดยการกระทำความผิด หรือได้ใช้หรือจะใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด หรือซึ่งอาจใช้เป็นพยานหลักฐานได้ ประกอบกับมีเหตุอันควรเชื่อว่าเนื่องจากการเนิ่นช้ากว่าจะเอาหมายค้นมาได้ บุคคลนั้น จะหลบหนีไป หรือทรัพย์สินนั้นจะถูกโยกย้าย ซุกซ่อน ทำลาย หรือทำให้เปลี่ยนสภาพไปจากเดิมโดยผู้ต้องหายินยอมและเป็นผู้นำตรวจค้น พบของกลางที่ใช้ในการกระทำผิดกฎหมายเป็นยาแก้ไอชนิดน้ำเชื่อม ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ใบพืชกระท่อม ที่ทำเป็นมัดและซุกซ่อนไว้ในลังโฟมและภายในบ้านหลังดังกล่า โดยทางผู้ต้องหารับว่าของกลางทั้งหมดเป็นของตน สอบปากคำผู้ต้องหาให้การว่ารับใบพืชกระท่อมและยาแก้ไอมาจากชายไทยไม่ทราบชื่อนามสกุลจริงโดยมาส่งที่บ้านที่เกิดเหตุ โดยซื้อใบพืชกระท่อมมาในราคากิโลกรัมละ 800 บาทและซื้อยาแก้ไอมาในราคาขวดละ 100 บาท โดยผู้ต้องหาจำหน่ายใบพืชกระท่อมและยาแก้ไอให้แก่วัยรุ่นและประชาชนในพื้นที่ในราคามัดละ 100 บาท และขวดละ 150 บาท จากนั้นจึงได้ทำการจับกุมพร้อมตรวจยึดของกลางทั้งหมด นำตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมดมาทำบันทึกจับกุมที่กองร้อย อส.อ.ตะกั่วป่า ที่ 7 และนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ตะกั่วป่า เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป