สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ที่ประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่รัฐสภาสหรัฐฯ หรือสภาคองเกรส กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของประเทศ มีมติ 224 ต่อ 194 เสียง ผ่านร่างญัตติว่าด้วยการจำกัดอำนาจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ในการใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อผู้ที่เป็นปรปักษ์ ซึ่งรวมทั้งอิหร่าน ยกเว้นแต่กรณีจำเป็นที่จะใช้ปฏิบัติการทางทหาร หรือมีการโจมตีเป้าหมายสหรัฐฯ ประธานาธิบดีก็จะต้องขอความเห็นชอบจากสภาคองเกรสเสียก่อน โดยร่างญัตติดังกล่าว มีขึ้นตามการเสนอของพรรคเดโมแครต ที่ไม่พอใจต่อประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งมีปฏิบัติการทางทหารต่ออิหร่าน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่ไม่ได้แจ้งให้สภาคองเกรสทราบล่วงหน้าก่อน ท่ามกลางการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า สภาคองเกรสจะมีมติผ่านร่างญัตติฉบับนี้ เนื่องจากสมาชิกส่วนใหญ่สังกัดพรรคเดโมแครต รายงานข่าวแจ้งว่า ขั้นตอนต่อไปหลังจากนี้ ก็จะมีการนำร่างญัตติข้างต้นให้ที่ประชุมสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ หรือสภาซีเนต ได้พิจารณา โดยคาดการณ์กันว่า ร่างญัตติดังกล่าวจะไม่ผ่านในสภาซีเนต เนื่องจากสมาชิกส่วนใหญ่สังกัดพรรครีพับลิกัน รายงานข่าวเผยว่า นับเป็นอีกครั้งที่สมาชิกสภาคองเกรส ที่สมาชิกส่วนใหญ่สังกัดพรรคเดโมแครต เคยผ่านมติร่างญัตติว่าด้วยการจำกัดอำนาจของประธานาธิบดีทรัมป์ในลักษณะนี้มาแล้ว เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ภายหลังจากทางการสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีมีกรณีพิพาทขัดแย้งกับอิหร่าน แต่ไม่ผ่านในการประชุมสภาซีเนตที่สมาชิกส่วนใหญ่สังกัดพรรครีพับลิกัน