ลานบ้านกลางเมือง/บูรพา โชติช่วง : ทวงคืนข้ามปี 2ทับหลังปราสาทหนองหงส์–ปราสาทเขาโล้น มีการตั้งเป้าทวงคืนโบราณวัตถุของไทยอยู่ในต่างแดน 124 รายการกลับคืนสู่ประเทศไทย โดยเฉพาะ 2 ทับหลัง “หนองหงส์-ปราสาทเขาโล้น” ให้ได้ใน 6 เดือน ปี 2563 เป็นภาพรวมของความคืบหน้าจากการประชุมคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ครั้งที่ 1/2563 ที่ห้องประชุมดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคม 2562 โดยมี อิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม เป็นประธานการประชุมติดตาม “เป็นการประชุมครั้งแรกของตนหลังเข้ารับตำแหน่งรมว.วัฒนธรรม” อิทธิพล กล่าว ทั้งได้กล่าวสรุปผลความคืบหน้าว่า ที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินงานตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ได้รับการส่งคืนโบราณวัตถุชิ้นสำคัญจำพวกภาชนะดินเผาจากแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง จ.อุดรธานี จากสหรัฐอเมริกา สำหรับการประชุมครั้งนี้ตั้งเป้าหมายเดินหน้าติดตามทวงคืนโบราณวัตถุที่อยู่ระหว่างการติดตามจำนวน 124 ชิ้น คือ 1.ทับหลังจากปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ และทับหลังจากปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว ทั้ง 2 รายการมีแนวโน้มจะได้คืนเป็นลำดับต้นๆ ล่าสุดอยู่ในขั้นตอนกฎหมายสหรัฐฯ 2. โบราณวัตถุสมัยก่อนประวัติศาสตร์ จากพิพิธภัณฑ์ศิลปะฮอนโนลูลู 14 รายการ ส่วนใหญ่เป็นพระพุทธรูป เทวรูป 3.โบราณวัตถุกลุ่มประโคนชัย 23 รายการ ส่วนใหญ่เป็นประติมากรรมสำริด พระโพธิสัว์อวโลกิเตศวร 4.โบราณวัตถุที่จัดแสดง ณ Norton Simon Museum จำนวน 9 รายการ 4.องค์พระพุทธรูปยืน 1 รายการ และ5 โบราณวัตถุบ้านเชียง 75 รายการ ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแห่งสหรัฐฯ ขอความร่วมมือไทยตรวจสอบ นอกจากนี้ที่ประชุมได้เพิ่มคณะอนุกรรมการฝ่ายวิชาการให้มีการประสานงานกับสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐอย่างใกล้ชิด ควบคู่กับการประสานงานของกระทรวงการต่างประเทศของไทยผ่านเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย ณ กรุงวอชิงตัน โดยจะมีการติดตามความคืบหน้าแบบเดือนเว้นเดือน เนื่องจากการยื่นเอกสารต่อพนักงานอัยการสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐล่าช้า ทำให้ไม่สามารถเข้าสู่ชั้นตอนการสืบพยานได้ทัน ทั้งนี้จะเร่งรัดการดำเนินการให้เร็วยิ่งขึ้น “ทั้งนี้ตนได้ให้กรอบเวลาการทำงานในการทวงคืนทับหลัง 2 รายการที่ไทยได้มีหลักฐานทั้งภาพถ่าย และเอกสารทางวิชาการต่างๆ ชัดเจนมีแนวโน้มจะได้คืน เพื่อให้คณะอนุกรรมการไปเร่งรัดการดำเนินการให้เห็นผลภายใน 6 เดือนของปี 2563 โดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศที่จะมีส่วนสำคัญในการประสานการทำงานด้านต่างๆ และได้เสนอว่าในกรอบการเจรจาระหว่างประเทศของผู้นำเวทีต่างๆ ให้มีการนำเสนอเรื่องการติดตามทวงคืนโบราณวัตถุเป็นอีกหนึ่งหัวข้อในการเจรจาเพื่อยกระดับความสำคัญด้วย” รมว.วัฒนธรรม ตั้งเป้าทวงคืนทับหลัง 2 รายการดังกล่าว “พร้อมกันนี้ที่ประชุมยังมีมติให้ดำเนินการติดตามโบราณวัตถุคืนเพิ่มเติม 1 รายการ คือ พระพุทธรูปประทับยืนเหนือพนัสบดี ศิลปะทวารวดี พุทธศตวรรษที่ 13 ที่ปรากฏอยู่ในฐานข้อมูลอินเทอร์เน็ตของสถาบันเอเชียไซไซตี้ นิวยอร์ก สหรัฐฯ ซึ่งเปรียบเทียบได้กับโบราณวัตถุที่คณะโบราณคดีมหาวิทยาลัยศิลปากร ได้ถ่ายรูปไว้เมื่อคราวสำรวจเมืองโบราณซับจำปาปี 2514 ขณะนั้นชาวบ้านได้เก็บรักษาไว้ โดยระบุว่านายจอห์น ดี ร็อกกี้เฟลเลอร์และภริยา เป็นผู้มอบให้แก่สถาบันดังกล่าว โดยเชื่อว่าโบราณวัตถุดังกล่าวลูกลักลอบนำออกนอกประเทศไทย โดยหลังจากนี้คณะอนุกรรมการจะรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งข้อมูลพยานและหลักฐานให้ชัดเจน” อิทธิพล รมว.วัฒนธรรม กล่าวทิ้งท้าย คงต้องติดตามความคืบหน้าการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย โดยเฉพาะ 2 รายการทับหลังปราสาทหนองหงส์และปราสาทเขาโล้น ตั้งเป้าทวงคืนให้เห็นผลภายใน 6 เดือนของปี 2563 ได้อย่างที่ลั่นวาจาหรือไม่ ภาพ ทับหลังปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ภาพ ทับหลังปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว ประชุมคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ครั้งที่ 1/2563