วันพุธที่ 8 มกราคม 2563 เวลา 09.00 น. พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน ครั้งที่ 1/2563 ณ ห้องประชุม 109 ชั้น 1 อาคารสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายเทวัญ ลิปตพัลลภ) เป็นรองประธานกรรมการ, ม.ร.ว. จตุมงคล โสภณกุล รมว.กระทรวงแรงงาน และผู้แทนกระทรวงที่เกี่ยวข้อง จำนวน 11 กระทรวง และตัวแทนสมัชชาคนจนร่วมเป็นกรรมการด้วย
พลเอก ประวิตร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งฯ มอบหมายให้ตนเป็นประธานกรรมการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นอย่างมาก โดยได้มอบนโยบายให้รัฐมนตรีทุกกระทรวงติดตามการแก้ไขปัญหาของประชาชนอย่างบูรณาการร่วมกัน และให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนด้วย การประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน ในวันนี้ ซึ่งมีตัวแทนสมัชชาคนจนเข้าร่วมเป็นกรรมการด้วย จึงเป็นนิมิตหมายที่ดีของการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาของภาครัฐกับภาคประชาชน เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเกิดความรวดเร็ว เป็นธรรม ตรงตามเป้าหมายความต้องการ โดยยึดประโยชน์สุขของประชาชนส่วนรวมเป็นสำคัญ
ที่ประชุมได้รับทราบความก้าวหน้าในการแก้ปัญหาของสมัชชาคนจน อาทิ กรณีราษฎร ได้รับผลกระทบ จากการสร้างเขื่อน ฝาย อ่างเก็บน้ำ เช่น ฝายราศีไศล ฝายหัวนา จว.ศรีสะเกษ. เขื่อนโปร่งขุนเพชร จว..ชัยภูมิ เขื่อนแก่งเสือเต้น จว.แพร่ เขื่อนแก่งท่าแซะ จว.ชุมพร เขื่อน ปากมูล จว.อุบลราชธานี เขื่อน สิรินธร จว.อุบลราชธานี. กรณีแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตร ราคามะพร้าวตกต่ำ ปัญหาเวนคืนที่ดิน จว.นครพนม โครงการอุตสาหกรรม บางสะพาน และการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกินในที่ดินของรัฐ ซึ่งเป็นที่สาธารณะประโยชน์ และที่ป่าไม้ ป่าสงวนแห่งชาติเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า และอุทยานแห่งชาติ. การแก้ปัญหากรณี นายจ้างเลิกจ้างแรงงาน. รวมทั้งการพิจารณาข้อเสนอเชิงนโยบายของสมัชชาคนจน จำนวน 9 กลุ่มข้อเสนอ 30 ข้อ อาทิ นโยบาย ด้านการจัดการน้ำและการสร้างเขื่อน ด้านระบบสวัสดิการของรัฐและคุณภาพชีวิตของประชาชน ด้านแรงงาน ด้านที่ดิน ป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติ ด้านการเกษตร และด้านการพัฒนาโครงการของรัฐ
นอกจากนี้ยังรับทราบการบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของสมาชิกสมัชชาคนจนที่อยู่อาศันในที่ทำกินของรัฐตามบันทึกึวามเข้าใจระหว่างรัฐบาลกับ สศจ.
รองนายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการในที่ประชุม คือ
1. กรณีการประชุมคณะอนุกรรมการ จัดหาที่ดิน ภายใต้คณะกรรมการที่ดินแห่งชาติเมื่อคณะกรรมการที่ดินแห่งชาติ ได้มีการแต่งตั้งคณะ อนุกรรมการจัดหาที่ดินแล้ว ขอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งรัดจัดการประชุมคณะอนุกรรมการ โดยเร็วเพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาต่อไป
2. กรณีขอให้ยกเลิกโครงการก่อสร้างเขื่อนท่าแซะ จังหวัดชุมพร และโครงการก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น จังหวัดแพร่มอบหมายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งรัดการพิจารณาดำเนินการ และให้รายงานผลความก้าวหน้าให้คณะกรรมการทราบอย่างต่อเนื่อง
3.กรณีการขอออกโฉนดที่ดินในเขตที่ดิน ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดิน อำเภอปากน้ำโพ อำเภอพยุหะคีรี อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. ๒๔๗๙ มอบหมายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งรัดการพิจารณา ดำเนินการ และให้รายงานผลความก้าวหน้าให้คณะกรรมการทราบอย่างต่อเนื่อง