เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 ม.ค.2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ แก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจนครั้งที่1/ 2563 โดยมีนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ม.ร.ว.จตุมงคล โสภณกุล รมว.แรงงาน เข้าร่วม ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวในที่ประชุมว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นอย่างมาก โดยได้มอบหมายนโยบายให้รัฐมนตรีทุกกระทรวงติดตามและแก้ไขปัญหาของประชาชนอย่างบูรณาการร่วมกัน และให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนด้วย การแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน ซึ่งมีตัวแทนสมัชชาคนจนร่วมเป็นกรรมการด้วย จึงเป็นนิมิตรหมายที่ดีของการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาของภาครัฐและภาคเอกชนและประชาชนเพื่อให้การแก้ไขปัญหาเกิดความรวดเร็วและเป็นธรรมตรงตามเป้าหมายความต้องการ โดยยึดประโยชน์สูงสุดของประชาชนและส่วนรวมเป็นสำคัญ รวมทั้งต้องยึดกฎหมายด้วย ไม่ใช่ยึดประโยชน์อย่างเดียว ต้องถือว่ากฎหมายเป็นส่วนสำคัญที่เราจะต้องยึดเป็นหลักในการที่จะทำอะไร ซึ่งความเห็นอะไรก็แล้วแต่จะต้องมีกฎหมาย จากนั้น พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า ได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการ และคณะทำงานในการแก้ไขปัญหาร่วมกับทางสมัชชาคนจนจำนวน 15 คณะ ซึ่งทางฝ่ายสมัชชาคนจนกับรัฐบาลได้ร่วมมือกันเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี จากนี้จะได้เดินหน้าแก้ไขปัญหา เร่งรัดการดำเนินการของแต่ละกระทรวงที่ได้รับมอบหมายไป อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่พูดถึงปัญหาอื่น เรื่องที่ผ่านมาก็ทำต่อเนื่องเพื่อช่วยให้คนจนได้มีที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน โดยจะต้องให้ดำเนินการกันโดยรวดเร็ว พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ(คทช.) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการจัดหาที่ดิน โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งรัดขับเคลื่อนการแก้ปัญหาต่อไป และเห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งรัดการพิจารณาการขอยกเลิกโครงการก่อสร้าง เขื่อนท่าแซะ จ.ชุมพร และเขื่อนแก่งเสือเต้น จ.แพร่ รวมถึงเห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทยเร่งรัดการพิจารณาออกโฉนดที่ดินในเขตที่ดินตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดิน อ.ปากน้ำโพ, อ.พยุหะคีรี และ อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ พ.ศ. 2479 พล.ต.พัชร์ศักดิ์ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรได้กล่าวขอบคุณผู้แทนสมัชชาคนจนที่เข้าร่วมประชุมในวันนี้เพื่อรับทราบแนวทางการแก้ปัญหาตามที่ได้ร้องขอ ตลอดจนขอบคุณสมัชชาคนจนทุกคนที่ให้ความร่วมมือด้วยดียิ่งกับการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐในช่วงที่ผ่านมา พร้อมทั้งได้กำชับสั่งการหน่วยงาน และกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา และรายงานผลให้คณะกรรมการทราบอย่างต่อเนื่องเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม รวดเร็ว นำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำ และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชนให้ได้ผลอย่างจริงจัง โดยจะไม่ยอมทิ้งใครไว้ข้างหลัง และต้องให้เป็นไปตามกรอบของกฎหมายที่เป็นธรรมแก่พี่น้องประชาชนทุกระดับอย่างเท่าเทียมกัน ยั่งยืน และขอให้ทุกหน่วยงานจะต้องมีการสร้างการรับรู้ความเข้าใจให้กับพี่น้องประชาชนควบคู่กันไปด้วย