“SUPER” ประกาศบิ๊กดีลทุ่มเงินลงทุนกว่า 1.5 พันล้านบาทเทกโอเวอร์โซลาร์ฟาร์มเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ เผยรับรู้รายได้-กำไรเข้ามาทันที ระบุขายหุ้นบริษัทย่อย IAE ให้ “GUNKUL” ประกาศลงทุนโซลาร์ฟาร์ม 36 เมกะวัตต์ ดันผลงานปี 63 ทะยาน นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บริษัทซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SUPER)เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมามีมติอนุมัติการเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ประเทศเวียดนาม จำนวน 1 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 50 เมกะวัตต์ โดยอนุมัติให้ บริษัท SUPER SOLAR ENERGY (HONGKONG) 3 CO.,LTD. (SSE-HK3) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทเข้าซื้อหุ้นสามัญในบริษัท THINH LONG PHU YEN SOLAR POWER JOINT STOCT COMPANY (TLPY) ซึ่งเป็นบริษัทเจ้าของโครงการ จากผู้ถือหุ้นเดิมใน TLPY จำนวน 4 รายในสัดส่วนร้อยละ 100 ของหุ้นสามัญของบริษัทเจ้าของโครงการ โดยมีมูลค่าทั้งหมดไม่เกิน 51,158,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1,585 ล้านบาท สำหรับโครงการของ TLPY ตั้งอยู่ที่ จังหวัด PHU YEN ประเทศเวียดนาม เป็นโครงการที่ได้ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าในรูปแบบ Feed-in Tariff ซึ่งมีอัตราการรับซื้อไฟฟ้า 9.35 เซ็นดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 20 ปีนับจากวันที่ดำเนินการเชิงพาณิชย์ ส่งผลให้บริษัทรับรู้รายได้และกำไรเข้ามาทันที ส่วนอัตราผลตอบแทนจากการเข้าลงทุนโครงการดังกล่าว IRR อยู่ที่ 13% ถือเป็นอีก 1 โครงการของ SUPER จากทั้งหมด 6 โครงการในการขยายการเข้าลงทุนในประเทศเวียดนาม มีเป้าหมายกำลังการผลิต 300 เมกะวัตต์ “เรายังคงมุ่งมั่นขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีหลายรูปแบบ และอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรหลายราย เพื่อไปสู่เป้าหมายกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นในอนาคตกว่า 1,300 เมกะวัตต์ ซึ่งจะช่วยผลักดันรายได้ และกำไรในช่วง 1-2 ปีข้างหน้าพร้อมสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง” นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทยังมีมติอนุมัติให้ขายหุ้นในบริษัท อินฟินิท อัลเทอร์เนทีฟ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (IAE) จำนวน 5,161,200 หุ้น ให้กับ บริษัทกันกุล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL หลังจากที่ได้รับการแจ้งความประสงค์ขอเสนอซื้อและบริษัทได้ให้บริษัทซุปเปอร์โซล่าร์ เอนเนอร์ยี จำกัด (SSE) เข้าทำรายการดังกล่าว โดยการจำหน่ายเงินลงทุนในหุ้นสามัญที่ถืออยู่ทั้งหมดใน IAE ให้กับ GUNKUL คิดเป็นสัดส่วน 33% ของทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วเป็นเงินจำนวน 780 ล้านบาทส่งผลให้บริษัท รางเงิน โซลู่ชั่น จำกัด (RNS)สิ้นสภาพในการเป็นบริษัทร่วมของ SSE ซึ่ง SSE ถือหุ้นทางอ้อมใน RNS สัดส่วน 33% อีกด้วย ทั้งนี้ SSE ยังได้เข้าทำสัญญาซื้อหุ้นบุริมสิทธิใน ศรีนาคา พาวเวอร์ (SNP) มูลค่าการเข้าทำรายการทั้งหมดไม่เกิน 290.31 ล้านบาท ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 6 โครงการ กำลังการผลิตรวม 36 เมกะวัตต์ และได้ดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเรียบร้อยแล้ว