วันที่ 6 มกราคม 2563 เวลา 10.00 น. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานและสักขีพยาน ในงานแถลงข่าวและพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “โครงการชีวิตสีชมพู” ระหว่าง กระทรวงยุติธรรม ร่วมกับ บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด (เครื่องสำอางมิสทิน) และโครงการปันฝันปันยิ้ม ในการจัดจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ผ่านแอปพลิเคชัน “Ning Nong Shopping Thailand” ณ ห้องรับรองกระทรวงยุติธรรม ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร โดยได้รับเกียรติจาก นายดนัย ดีโรจนวงศ์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด (เครื่องสำอางมิสทิน) และ ดร.ณัฐพงศ์ โมกขพันธ์ ผู้อำนวยการโครงการปันฝันปันยิ้ม ร่วมเป็นสักขีพยาน โดยมีผู้ลงนาม ได้แก่ ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายองอาจ วงศ์เดชาโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดเครื่องสำอางมิสทิน และนางสาวเพียงเพ็ญ วงศ์นิมิตรกุล รองผู้อำนวยการโครงการปันฝันปันยิ้ม ทั้งนี้ พ.ต.อ. ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์, นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ และ นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม ตลอดจนเด็กและเยาวชนกรมพินิจฯ กว่า 100 คน ร่วมงานด้วย โดยในงานได้มีการสาธิตการใช้ และทดลองสั่งซื้อสินค้าผ่าน Ning Nong พร้อมทั้งการจัดบูธนิทรรศการแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์งานฝีมือต่างๆ ของกรมราชทัณฑ์ กรมคุมประพฤติ และ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ซึ่งหน่วยงานในกลุ่มพัฒนาพฤตินิสัยของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งการลงนามฯ ในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมผลิตภัณฑ์งานฝีมือของผู้ที่เคยก้าวพลาดให้เกิดการค้าขายออนไลน์ผ่าน Ning Nong โดยเครื่องสำอางมิสทิน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว ต้อนรับและแสดงความยินดีในการลงนามครั้งนี้ว่า “กระทรวงยุติธรรม มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายเครื่องสำอางขายตรงรายใหญ่ หรือที่รู้จักกันในนาม “มิสทิน” ได้ให้โอกาสแก่ผู้กระทำผิด ที่อยู่ในความดูแลของกระทรวงยุติธรรม ให้ได้มีโอกาสในการประกอบอาชีพที่สุจริต มีรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดี และสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุข โดยไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำ กระทรวงยุติธรรม กำลังริเริ่มนโยบายมาตรการลดภาษีแก่บริษัท ห้างร้าน ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม ที่เปิดโอกาสรับผู้ที่เคยกระทำผิดเข้าทำงาน เพื่อสร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้ประกอบการเล็งเห็นความสำคัญ และการให้โอกาสแก่ผู้ที่กระทำผิด ให้มีรายได้จากการประกอบอาชีพที่สุจริต ซึ่งจะส่งผลให้แนวโน้มการกระทำผิดซ้ำลดลง เนื่องจากผู้ที่เคยกระทำผิดมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ได้รับการยอมรับ เกิดการเห็นคุณค่าในตนเอง มีเกียรติและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกับผู้อื่น ดังนั้น ความร่วมมือในวันนี้ จึงนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ซึ่งจะได้มีการสานต่อและขยายผลต่อไปในอนาคต ขณะที่ นายดนัย ดีโรจนวงศ์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด (เครื่องสำอางมิสทิน) กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “เครื่องสำอางมิสทิน คือธุรกิจขายตรง ที่สร้างโอกาสให้คนไทยมีรายได้ และอาชีพที่มั่นคงมากว่า 30 ปี และกลุ่มผู้ก้าวพลาดจากกระทรวงยุติธรรม คือกลุ่มผู้ที่ต้องการโอกาสจากสังคม เพื่อให้พวกเขาสามารถสร้างชีวิตที่ดีและมั่นคงในอนาคตได้ ด้วยโลกออนไลน์ที่เติบโตขึ้นทุกวัน เป็นแรงผลักดันให้มิสทินพัฒนาแอปพลิเคชัน Ning Nong Shopping Thailand ซึ่งเป็นแอปพลิเคชัน ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านการสร้างโอกาสทางอาชีพที่มั่นคง และการเตรียมความพร้อม ในการเข้าสู่โลกแห่งดิจิทัล เนื่องจาก Ning Nong ไม่ต้องมีต้นทุน ไม่ต้องมีหน้าร้าน และไม่ว่าใครก็สามารถมีรายได้โดยไม่ต้องพึ่งพา หรือรบกวนบุคคลอื่น ด้วยการสร้างหน้าร้านออนไลน์ด้วยตัวเองได้ทันที มิสทิน เชื่อในเรื่องของการมอบโอกาสให้กับทุกคน จึงเป็นที่มาของการลงนามบันทึกข้อตกลงฯ ในครั้งนี้ โดยมิสทิน จะสอนวิธีการขายสินค้าออนไลน์ผ่าน Ning Nong และจะใช้เป็นช่องทางจัดจำหน่ายสินค้า โดยเริ่มต้นนำร่องกับน้องๆ เยาวชนกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เพื่อปูทางอาชีพให้กับพวกเขาตั้งแต่ยังอยู่ภายในสถานควบคุม และเมื่อน้องๆ เยาวชนได้รับการปล่อยตัวแล้ว จะสามารถใช้ Ning Nong เป็นหน้าร้านออนไลน์ โดยไม่ต้องใช้เงินทุนใด ๆ ทำให้น้อง ๆ เยาวชนมีโอกาสทางรายได้อย่างไม่จำกัดจากการขายสินค้าผ่าน Ning Nong ด้าน ดร.ณัฐพงศ์ โมกขพันธ์ ผู้อำนวยการโครงการปันฝันปันยิ้ม กล่าวถึงที่มาของความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “โครงการปันฝันปันยิ้ม เกิดจากตัวผมและผู้ใหญ่หลายๆ ท่าน ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการให้โอกาสแก่เด็กด้อยโอกาส ผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก ผู้พิการ ผู้สูงอายุ และผู้เคยกระทำผิด โดยทางโครงการริเริ่มจากการให้การช่วยเหลือในด้านการรักษาสำหรับครอบครัวที่ขาดทุนทรัพย์หรือบุคคลที่ขาดโอกาสในการรักษา อีกทั้งการสร้างโอกาสในด้านอื่นๆ อาทิ การให้อาชีพ การสร้างโรงเรียน การสานฝัน การให้ที่อยู่อาศัย หรืออื่นใดเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้บุคคลเหล่านั้น ยังคงมีความสำคัญและอยู่อย่างทัดเทียมเฉกเช่นคนปกติ ภายใต้เป้าหมายเดียวกัน นั่นคือ ความร่วมมือกันสร้างการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นให้เกิดแก่สังคมในปัจจุบัน ซึ่งโครงการปันฝันปันยิ้มมีการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อทีวี ภายใต้ชื่อ “รายการปันฝันปันยิ้ม” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 ทุกวันจันทร์หลังข่าวและผ่านทางสื่อพันธมิตรต่างๆ "ปัจจุบันการค้าขายสินค้าออนไลน์เป็นรูปแบบหนึ่งในการขายของบนอินเทอร์เน็ต เป็นที่นิยมในไทยเมื่อไม่กี่ปี ที่ผ่านมา มีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงขึ้น เพราะตลาดออนไลน์เป็นตลาดที่เปิดกว้าง ใครก็สามารถขายของออนไลน์ได้อย่างไม่ยุ่งยาก จึงได้รับความนิยม จากกลุ่มคนที่ต้องการหารายได้และสร้างอาชีพ ที่สำคัญคือ ต้นทุนต่ำ และสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงจุดและรวดเร็ว ดังนั้นทางโครงการ ปันฝันปันยิ้ม ร่วมกับ มิสทิน ได้จัดกิจกรรมโครงการ “ชีวิตสีชมพู” ขึ้น เพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์งานฝีมือของเด็กและเยาวชน อีกทั้งพัฒนาทักษะวิชาชีพด้านการค้าขายสินค้าออนไลน์ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนได้ใช้ความรู้ความสามารถจากการฝึกอบรมมาใช้ให้เกิดประโยชน์ และได้รับประสบการณ์นอกเหนือจากการศึกษาในหน่วยเรียน ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพ และมาตรฐานด้านการฝึกวิชาชีพสำหรับเด็ก และเยาวชนให้มีประสิทธิภาพต่อไป " ดร.ณัฐพงศ์ฯ กล่าว