“ใบเตยเป็นพืชที่มีกลิ่นเฉพาะตัว สีสวย และหาได้ง่ายในประเทศไทย เราชอบใบเตยอยู่แล้ว และคิดว่าน่าจะนำมาสร้างเป็นจุดขายที่แตกต่างให้กับขนมไทยหลากหลายรูปแบบได้”
ด้วยเชื่อว่า “ทุกขนมไทยเป็นใบเตยได้” มหศักย์ สุรกิจบวร จึงนำใบเตยมาใช้เป็นส่วนประกอบหลักในการสร้างสรรค์เมนูขนมไทย จนเกิดเป็นแบรนด์ “หยกสด” ที่มีจุดเด่นอยู่ที่ขนมทุกชนิดของแบรนด์ใช้วัตถุดิบหลักจากใบเตยแท้ 100 % ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างภาพจำที่ดีให้กับแบรนด์แล้ว เมื่อนำมาสร้างสรรค์เป็นขนมไทยที่หารับประทานได้ยากในปัจจุบัน อาทิ บุหลันมรต หยกมณี อินทนิล จึงทำให้ “หยกสด” ยิ่งดูน่ารับประทานและดึงดูดใจลูกค้ามากขึ้น
“เราพยายามเลือกขนมที่หารับประทานได้ยาก เพราะเราเชื่อว่ามันจะเป็นจุดเด่นที่ทำให้คนสนใจ แต่ต้องเพิ่มลูกเล่นที่แปลกใหม่ลงไปในขนม เพื่อให้คนรู้สึกตื่นเต้น และสิ่งที่สำคัญ คือ ขนมที่เราสร้างสรรค์ขึ้นมานั้นจะต้องเข้ากันได้ดีกับใบเตย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์และจุดขายของแบรนด์เรา”
นอกจากสีสันเขียวสดจากใบเตย และหน้าตาขนมที่แปลกใหม่ ดึงดูดสายตาลูกค้าแล้ว มหศักย์ ยังให้ความสำคัญกับเรื่องของรสชาติ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ที่ไม่นิยมรับประทานรสหวานจนเกินไป อีกทั้ง ยังพัฒนาสูตรขนมให้เก็บรักษาได้นานขึ้น และขนส่งได้ง่ายโดยไม่ทำให้ขนมเสียหาย เพื่อให้เหมาะสมกับยุคสมัยของการขนส่งแบบดิลิเวอรี่เช่นในปัจจุบัน
“ยกตัวอย่าง ขนมบุหลันมรต ซึ่งเป็นทาร์ตใบเตยนึ่งหน้าสังขยา ที่เราประยุกต์มาจากขนมไทยโบราณ ชื่อ บุหลันดั้นเมฆ เดิมจะเป็นสีฟ้าคราม แต่ว่าของเราจะเป็นสีเขียวจากใบเตย แล้วก็ปรับชื่อให้เป็นบุหลันมรกต หรือ ขนมหยกมณี ก็จะเป็นสาคูเคี่ยวกับน้ำใบเตยสด โดยเราเคี่ยวให้เป็นตากบ คือ สุกแบบขาวขุ่น รับประทานคู่กับมะพร้าวขูดนึ่งเกลือ ซึ่งเนื้อขนมจะมีความแน่นกว่าสาคูเปียก และไม่เละ”
ในส่วนของการทำตลาด มหศักย์ มีทั้งหน้าร้านของแบรนด์ และการออกร้านตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งในห้างสรรพสินค้า และตามหัวเมืองย่านเศรษฐกิจในกรุงเทพฯ เพื่อให้ขนมไทยสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อีกทั้ง ยังมีการจัดส่งเพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่ไม่สะดวกมาซื้อที่ร้าน ให้สามารถรับประทานขนมไทยได้ทุกที่ ทุกเวลา
“เราคิดว่าแบรนด์เรายังเป็นหน้าใหม่ในวงการขนมไทย เริ่มธุรกิจจากการทำกันเองเล็ก ๆ ในบ้าน ไม่ได้มีอุปกรณ์ใหญ่โตอะไรมากมาย แต่เราก็พยายามวางระบบงานให้มีแบบแผน เป็นขั้นเป็นตอนมากขึ้น เพื่อรองรับกับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต”
รายการส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอี เรื่อง สร้างภาพจำให้แบรนด์ขนมไทยด้วยใบเตย รายการ ‘เพื่อนคู่คิด’ นำออกอากาศเผยแพร่ทาง สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 33 เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 22 สิงหาคม 2562 สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่เว็บไซต์ www.bangkokbank.com/puankookit และ www.facebook.com/puankookit
“เราพยายามเลือกขนมที่หารับประทานได้ยาก เพราะเราเชื่อว่ามันจะเป็นจุดเด่นที่ทำให้คนสนใจ แต่ต้องเพิ่มลูกเล่นที่แปลกใหม่ลงไปในขนม เพื่อให้คนรู้สึกตื่นเต้น และสิ่งที่สำคัญ คือ ขนมที่เราสร้างสรรค์ขึ้นมานั้นจะต้องเข้ากันได้ดีกับใบเตย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์และจุดขายของแบรนด์เรา”
นอกจากสีสันเขียวสดจากใบเตย และหน้าตาขนมที่แปลกใหม่ ดึงดูดสายตาลูกค้าแล้ว มหศักย์ ยังให้ความสำคัญกับเรื่องของรสชาติ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ที่ไม่นิยมรับประทานรสหวานจนเกินไป อีกทั้ง ยังพัฒนาสูตรขนมให้เก็บรักษาได้นานขึ้น และขนส่งได้ง่ายโดยไม่ทำให้ขนมเสียหาย เพื่อให้เหมาะสมกับยุคสมัยของการขนส่งแบบดิลิเวอรี่เช่นในปัจจุบัน
“ยกตัวอย่าง ขนมบุหลันมรต ซึ่งเป็นทาร์ตใบเตยนึ่งหน้าสังขยา ที่เราประยุกต์มาจากขนมไทยโบราณ ชื่อ บุหลันดั้นเมฆ เดิมจะเป็นสีฟ้าคราม แต่ว่าของเราจะเป็นสีเขียวจากใบเตย แล้วก็ปรับชื่อให้เป็นบุหลันมรกต หรือ ขนมหยกมณี ก็จะเป็นสาคูเคี่ยวกับน้ำใบเตยสด โดยเราเคี่ยวให้เป็นตากบ คือ สุกแบบขาวขุ่น รับประทานคู่กับมะพร้าวขูดนึ่งเกลือ ซึ่งเนื้อขนมจะมีความแน่นกว่าสาคูเปียก และไม่เละ”
ในส่วนของการทำตลาด มหศักย์ มีทั้งหน้าร้านของแบรนด์ และการออกร้านตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งในห้างสรรพสินค้า และตามหัวเมืองย่านเศรษฐกิจในกรุงเทพฯ เพื่อให้ขนมไทยสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อีกทั้ง ยังมีการจัดส่งเพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่ไม่สะดวกมาซื้อที่ร้าน ให้สามารถรับประทานขนมไทยได้ทุกที่ ทุกเวลา
“เราคิดว่าแบรนด์เรายังเป็นหน้าใหม่ในวงการขนมไทย เริ่มธุรกิจจากการทำกันเองเล็ก ๆ ในบ้าน ไม่ได้มีอุปกรณ์ใหญ่โตอะไรมากมาย แต่เราก็พยายามวางระบบงานให้มีแบบแผน เป็นขั้นเป็นตอนมากขึ้น เพื่อรองรับกับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต”
รายการส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอี เรื่อง สร้างภาพจำให้แบรนด์ขนมไทยด้วยใบเตย รายการ ‘เพื่อนคู่คิด’ นำออกอากาศเผยแพร่ทาง สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 33 เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 22 สิงหาคม 2562 สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่เว็บไซต์ www.bangkokbank.com/puankookit และ www.facebook.com/puankookit