“วีระ” ยอมถอยไม่เข้าพิสูจน์ที่ตั้งบ่อนคาสิโน ช่องสายตะกู จ.บุรีรัมย์แล้ว หลังถูกมวลชนกดดันให้ออกจากพื้นที่ เพราะหวั่นเกิดความขัดแย้งบานปลายระหว่าง 2 ประเทศ พร้อมยันสาเหตุที่เข้ามาตรวจสอบเพราะมีคนร้องเรียน ไม่ใช่เรื่องความแค้นส่วนตัว และจะเดินหน้าตรวจสอบให้ถึงที่สุด วันที่ 29 มี.ค. 60 ความคืบหน้ากรณีที่ นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น มีกำหนดการจะเข้าไปตรวจสอบที่ตั้งของบ่อนคาสิโน บริเวณจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ว่าบ่อนคาสิโนอยู่บนพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนหรือไม่ แต่หลังจากได้มีกลุ่มมวลชนจำนวนหนึ่ง เข้าไปกดดันนายวีระ ถึงที่พักในรีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.บ้านกรวด พร้อมทั้งรวมตัวที่หน้าสถานีตำรวจภูธรบ้านกรวด เพื่อกดดันให้ออกจากพื้นที่ ล่าสุดนายวีระ ก็ได้ถอยออกไปตั้งหลักที่อยู่ที่อำเภอประโคนชัย ซึ่งอยู่ห่างจากแนวชายแดนช่องสายตะกูประมาณ 40 กิโลเมตร โดยนายวีระ ระบุว่า การที่มีมวลชนออกมาเคลื่อนไหวกดดันไม่ให้เข้าไปตรวจพิสูจน์ที่ตั้งบ่อนคาสิโนนั้น ส่วนตัวเชื่อว่า อาจจะมีคนอยู่เบื้องหลัง เพราะไม่เช่นนั้นชาวบ้านจะรู้ได้อย่างไรว่าตนเองพักอยู่ที่ไหน แต่ที่ยอมถอย เพราะไม่ต้องการให้เกิดการปะเผชิญหน้า ทั้งนี้ นายวีระ ยังยืนยันว่า สาเหตุที่เข้ามาตรวจสอบเพราะมีคนมาร้องเรียน ไม่ใช่เรื่องความแค้นส่วนตัว ดังนั้นจึงจะเดินหน้าตรวจสอบให้ถึงที่สุด หลังจากนี้นายวีระยืนยันว่าถ้าหากชาวบ้านกดดันไม่ให้เข้าพื้นที่ เขาก็จะไม่ไป แต่ก็เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่พาสื่อมวลชน และนักวิชาการเข้าไป ได้ ขณะที่ อาจารย์ วีรพันธุ์ วิไลยพันธุ์ นักโบราณคดี ที่ได้ลงพื้นที่มาร่วมตรวจสอบกับนายวีระ ได้แสดงแผนที่ให้ทีมข่าวได้ดู โดยใช้แผนที่ของไทย ซ้อนทับกับแผนที่ 1: 200,000 ของฝรั่งเศสที่กัมพูชาใช้อ้างต่อศาลโลก พร้อมระบุว่าพื้นที่บริเวณที่ก่อสร้างบ่อนคาสิโนนั้นเป็นพื้นที่ที่อยู่นอกเขตของกัมพูชา และตั้งอยู่บนพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนระหว่าง 2 ประเทศ