วันที่ 5 ม.ค.63 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงจากกรณีความขัดแย้งที่เกิดใน ตะวันออกกลาง ระหว่าง สหรัฐอเมริกากับอิหร่าน โดยได้มีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการลอบสังหารนายพลระดับสูงของอิหร่านและการตอบโต้ รอเวลาเอาคืนสหรัฐอเมริกาของอิหร่าน ตลอดจนกระแสข่าวต่างๆ ซึ่งมีประชาชนต่างให้ความสนใจในเรื่องที่เกิดขึ้น ประกอบกับสื่อมวลชนได้ตั้งประเด็นคำถามเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. รับทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ได้มีข้อสั่งการให้ตำรวจทุกหน่วย อาทิ ตำรวจสันติบาล ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบังคับกองการต่างประเทศ เฝ้าติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด ในการเฝ้าระวังและสืบสวนหาข่าว ในพื้นที่สำคัญ เช่นสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล ประจำประเทศไทย โบสถ์ มัสยิด และจุดล่อแหลมต่าง ๆ ประกอบกับทำการบูรณาการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการข่าวและป้องกันเหตุแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้น กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีมาตรการในการป้องกันและการรักษาความปลอดภัยรองรับอยู่แล้วและจะทำอย่างเข้มงวดต่อไป โดยเพิ่มความเข้มของเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล ร่วมกับ ตำรวจที่รับผิดชอบในพื้นที่ ในการจัดกำลังไปตรวจสอบ ดูแล สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลต่างๆ ในประเทศไทย รวมทั้งโบสถ์ มัสยิด และจุดล่อแหลมต่าง ๆ อย่างใกล้ชิดเต็มที พร้อมให้การสนับสนุน หากได้รับการร้องขอกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม พร้อมทั้ง ในช่วงนี้ก็ได้ประสานงานกับประเทศคู่ขัดแย้งอย่างใกล้ชิด หากมีการร้องขอใดๆก็ยินดี ภายใต้กรอบอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ ยืนยันว่า ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศคู่ขัดแย้ง ประกอบกับการข่าวในขณะนี้ยังไม่พบความเคลื่อนไหวและยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่เราก็ไม่ประมาท