"บิ๊กป้อม" ควง ผบ.เหล่าทัพ ถก จีบีซี กัมพูชา ปัด หารือเขาพระวิหาร-จัดกำลังตามคำสั่งศาลโลก ชี้ 2 ประเทศพูดกันเข้าใจอยู่แล้ว ไม่สน "วีระ" ถูกประชาชนกันไม่ให้เข้าพื้นที่ บอก คงห่วงค้าขาย เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ท่าอากาศยาน2 กองบิน6 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม พร้อมคณะ เดินทางไปร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ( GBC ) ไทย – กัมพูชา ครั้งที่ 12 ณ จังหวัดเสียมราฐ กัมพูชา ระหว่าง 29 – 30 มี.ค.60 ร่วมกับ พล.อ.เตียบันห์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กัมพูชา โดยมี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.เฉลิมชัย สิทธสาท ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผู้บัญชาการทหารอากาศ และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนถึง นายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า การเดินทางไปในครั้งนี้ไม่ได้มีการพูดคุยในเรื่องเขาพระวิหาร ทั้งในและนอกรอบ ยืนยันความสัมพันธ์ไทยกับกัมพูชาดีอยู่แล้ว ส่วนการดำเนินการตามมติของศาลโลกนั้นในการจัดวางกำลังในพื้นที่นั้น ยังไม่มีการพูดคุยกัน ซึ่งขณะนี้เราก็พูดคุยกับกัมพูชารู้เรื่องทุกอย่าง อย่างไรก็ตามการเดินทางไปดังกล่าวเป็นการประชุมตามวาระ พล.อ. ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณี นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายต้านคอรัปชั่น ถูกประชาชนในพื้นที่ขอความร่วมมือให้ออกจากพื้นที่ไปหลังเดินทางลงพื้นที่พิสูจน์ การตั้งบ่อนคาสิโน บริเวณจุดผ่ายแดนด่านช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ว่า ก็แล้วแต่ เป็นเรื่องของนายวีระ ซึ่งความจริงแล้วก็ไม่มีอะไร ประชาชนในพื้นที่เขารู้อยู่แล้ว ว่าอะไรเป็นอะไร ส่วนกรณีที่มีรถสามล้อ พ่อค้าแม่ค้า ไปขอร้องนายวีระไม่ให้เข้าพื้นที่นั้น ตนไม่ทราบ แต่เขาไม่อยากให้มีผลกระทบคงต่อการค้าขายกันในพื้นที่โดยไม่ส่งผลกระทบ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมดังกล่าว เป็นเวทีให้คณะกรรมการทั้งสองประเทศ ได้พบปะ พูดคุยสรุปความก้าวหน้าและทบทวนการทำงานร่วมกันที่ผ่านมา และร่วมกันพิจารณาเสริมสร้างความร่วมมือในการดูแลความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงปลอดภัยในพื้นที่ชายแดน พร้อมทั้งกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพและหน่วยงานความมั่นคงของทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นควบคู่กันไป ซึ่งที่ผ่านมา ความร่วมมือด้านความมั่นคงของทั้งสองประเทศได้มีพัฒนาการร่วมกันอย่างแน่นแฟ้น ด้วยมิตรภาพที่มีความใกล้ชิด จริงใจระหว่างกัน ส่งผลให้ชายแดน ไทย – กัมพูชา มีความสงบสุข มั่นคงและได้รับการพัฒนาร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น