สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่รัฐชายฝั่งทางตะวันออกของออสเตรเลียยังคงวิกฤติ จนทางการต้องประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นครั้งที่ 11 ภายหลังจากเปลวไฟป่าเริ่มปะทุขึ้นมาตั้งแต่เดือน ส.ค.เป็นต้นมา และเผาผลาญกินอาณาบริเวณรวมแล้วราว 30 ล้านไร่ ในพื้นที่รัฐควีนส์แลนด์ และรัฐนิวเซาท์เวลส์ ทางชายฝั่งตะวันออกของประเทศ จากการที่จำนวนไฟป่าเพิ่มขึ้นเป็น 200 จุด โดยเหตุไฟป่าที่ยังเป็นวิกฤติในเวลานี้ ได้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วนับสิบราย โดยล่าสุด ได้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 2 ราย เป็นชาวเมืองโคบาร์โก พื้นที่หุบเขาเบกา รัฐนิวเซาท์เวลส์ ส่วนบ้านเรือนของประชาชนถูกไฟป่าเผาผลาญรวมแล้วนับพันหลัง ขณะที่ สถานการณ์ทางด้านความเป็นอยู่ของประชาชนและนักท่องเที่ยว ปรากฏว่า จำนวนหลายพันคนได้พากันอพยพไปพำนักอาศัยตามชายหาด เช่น ที่มีเมืองมัลลาคูตา และบริเวณอ่าวบาเตมันส์ ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ เนื่องจากไฟป่าได้ปิดล้อมเส้นทางสัญจรแทบทุกด้าน