ขึ้นชื่อว่าผักผลไม้ ที่ส่วนใหญ่จะต้องรับประทานสด เพื่อให้ได้รสชาติและความสดชื่น
แต่ขณะเดียวกันว่ากันว่ามีผักหลายชนิดที่ไม่ควรกินดิบ ซึ่ง Oryor.com ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โพสต์ระบุ มีการแชร์กันทั่วโซเซียลว่า ถั่วงอก กระหล่ำปลี หน่อไม้ ถั่วฝักยาว และผักโขมไม่ควรกินดิบ เพราะมีสารที่อาจก่ออันตรายได้ จะจริงหรือไม่ มีคำตอบให้
1.หน่อไม้ มันฝรั่ง และมันสำปะหลัง
ห้ามกินดิบเด็ดขาด เพราะมีสารไซยาไนด์ หากกินเข้าไปในปริมาณมาก สารนี้จะไปจับเม็ดเลือดแดงทำให้ขาดออกซิเจน หมดสติ และอาจถึงตายได้
ดังนั้น จึงควรนำไปต้มในน้ำเดือดประมาณ 10 นาทีก่อนเพื่อลดปริมาณสารดังกล่าว หรือนำไปปอกเปลือก และทำให้สุกด้วยความร้อน เช่น ปิ้ง อบ ก่อนนำมากิน
2. ถั่วงอก ไม่ควรกินดิบ เนื่องจากการเจริญเติบโตของถั่วงอกต้องอาศัยความชื้น จึงมีความเสี่ยงสูงจะปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย
3.ถั่วฝักยาว ไม่ควรกินดิบเช่นกัน เพราะอาจทำให้ท้องอืด โดยเฉพาะในคนที่มีปัญหาการย่อย และกลุ่มผู้สูงอายุ รวมทั้งมีโอกาสปนเปื้อนยาฆ่าแมลงสูง ต้องล้าง และแช่น้ำทิ้งไว้อย่างน้อย 5-10 นาที เพื่อลดปริมาณสารเคมีที่ปนเปื้อน
4.กะหล่ำปลี คนทั่วไปสามารถกินดิบได้ แต่คนที่มีภาวะการทำงานของต่อมไทรอยด์ที่ต่ำกว่าปกติ (Hypothyroidism) ไม่ควรรับประทานกินดิบ เนื่องจากในกะหล่ำปลีมีสาร กอยโตรเจน (Goitrogen) ซึ่งจะไปยับยั้งการนำไอโอดีนไปใช้ในการสังเคราะห์ไทรอยด์ฮอร์โมน ทำให้ต่อมไทรอยด์ทำงานได้ลดลงไปอีก โดยกอยโตรเจน (Goitrogen) สามารถถูกทำลายโดยการผ่านความร้อนได้
5.ผักโขม คนทั่วไปกินดิบได้ แต่ผู้ที่มีภาวะการขาดธาตุเหล็ก และแคลเซียม ไม่ควรกินดิบ เนื่องจากผักโขมจะมีกรดออกซาลิก (Oxalic Acid) ซึ่งจะไปยับยั้งการดูดซึมธาตุเหล็ก และแคลเซียมจากอาหาร
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าผัก 5 ชนิดที่กล่าวมาข้างต้น มีเพียงบางชนิดเท่านั้นที่ไม่ควรรับประทานขณะยังดิบ ดังนั้น ก่อนจะกินอะไรก็ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน เพื่อความปลอดภัยต่อตนเอง และคนรอบข้าง