เอกฉันท์ “กนง.”นัดสุดท้ายปี 62 คงดอกเบี้ยตามคาด ขณะที่ส่งออกต่ำกว่าคาด-เอกชนชลอลงทุน หั่นจีดีพีปีนี้เหลือโต 2.5% ส่วนปี 63 หั่นลง 0.50% เหลือโต 2.8% นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)และเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)เปิดเผยว่า ในการประชุม กนง.ครั้งสุดท้ายของปี 2562 คณะกรรมการมีมติเอกฉันท์ 7:0 ให้คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.25% ต่อปี หลังประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าคาดและต่ำกว่าศักยภาพ ทำให้ กนง.ปรับลดอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ(จีดีพี)ปีนี้เหลือโต 2.5% จากเดิมโต 2.8% เนื่องจากการส่งออกสินค้าหดตัวมากกว่าคาด โดยหดตัว 3.3% จากเดิมคาดหดตัว 1% นอกจากนี้ กนง.ปรับลดจีดีพีปี 2563 เหลือโต 2.8 % จากเดิมคาดโต 3.3% เนื่องจากการใช้จ่ายภาครัฐและการลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ ส่วนหนึ่งมาจากการเลื่อนการลงทุนของรัฐวิสาหกิจและโครงการร่วมทุนของรัฐและเอกชนในโครงสร้างพื้นฐานบางโครงการ ขณะที่การส่งออกปี 2563 คาดว่าจะขยายตัว 0.5% เป็นการฟื้นตัวช้ากว่าคาดจากเดิมขยายตัว 1.7% ผลกระทบจากการชะลอตัวของการค้าโลกจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน สำหรับการบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มชะลอลงจากรายได้และการจ้างงานที่ปรับลดลงโดยเฉพาะการผลิตเพื่อส่งออกและหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ส่วนอัตราเงินเฟ้อปีนี้อยู่ที่ 0.5% และ 0.7% ในปี 2563 และมีแนวโน้มต่ำกว่ากรอบเป้าหมาย จากราคาพลังงานต่ำกว่าคาดตามเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวต่ำ ขณะที่ค่าเงินบาทในช่วงที่ผ่านมาเคลื่อนไหวทั้ง 2 ทิศทางและสอดคล้องกับสกุลเงินภูมิภาคมากขึ้น คณะกรรมการฯ กังวลต่อสถานการณ์เงินบาทที่ยังแข็งค่าอยู่เมื่อเทียบกับประเทศคู่ค้าคู่แข่ง จึงเห็นควรให้ติดตามสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยนและเงินทุนเคลื่อนย้ายอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิดท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านต่างประเทศที่มีอยู่สูง รวมถึงให้ติดตามประสิทธิผลของการผ่อนคลายกฎเกณฑ์กำกับดูแลการแลกเปลี่ยนเงิน เพื่อเอื้อให้เงินทุนไหลออกและความจำเป็นในการดำเนินมาตรการเพิ่มเติม