เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. นายวสันต์ นุ้ยภิรมย์ อธิบดีกรมหม่อนไหม ได้มอบหมายให้นายสันติ กลึงกลางดอน รองอธิบดีกรมหม่อนไหม ลงนามบันทึกความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ไหม หม่อน และมะหาด ร่วมกับกับนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ณ อาคาร 100 ปี กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นายสันติ กลึงกลางดอน รองอธิบดีกรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า หม่อนและไหมมีคุณสมบัติหลายด้าน สามารถนำมาพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลายอย่าง ทั้งในด้านการบริโภค ด้านเวชสำอาง และด้านสิ่งทอเครื่องนุ่งห่ม กรมหม่อนไหมได้ดำเนินโครงการวิจัยตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากหม่อนและไหมมาอย่างต่อเนื่อง โดยด้านหม่อน มีการศึกษาและพัฒนาด้านหม่อนในรูปแบบของชาใบหม่อน ไวน์หม่อน น้ำหม่อน แยม รวมทั้งการผลิตแอนโทไซยานินจากผลหม่อน ส่วน ด้านไหม มีงานวิจัยทางด้านเส้นไหม การศึกษาทางด้านวัสดุทางการแพทย์ การนำโปรตีนจากไหมมาใช้ประโยชน์ทั้งในรูปแบบ ไฟโบรอิน และเซริซิน ซึ่งบางโครงการได้รับการต่อยอดในเชิงการค้าเพื่อสร้างประโยชน์สู่ผู้บริโภค และยังมีงานวิจัยที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีกหลายโครงการ การลงนามในบันทึกความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นโอกาสอันดีที่กรมหม่อนไหมได้ร่วมมือกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งมีศักยภาพและความพร้อม ทั้งองค์ความรู้ บุคลากร เทคโนโลยี และด้านต่างๆ อันจะเป็นการอำนวยประโยชน์ให้แก่การวิจัยและสร้างความร่วมมือด้านการวิจัยที่เกี่ยวกับไหม หม่อน และมะหาด เพื่อการคิดค้น ผลิต พัฒนางานวิจัย โดยนำความรู้จากทั้งกรมหม่อนไหมและกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มาร่วมกันต่อยอดพัฒนาให้ได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีคุณภาพมาตรฐาน ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค สร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้าผลิตภัณฑ์ไหม หม่อน และมะหาด อีกทั้งยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรทั้งทางตรงและทางอ้อม และสามารถขยายผลต่อยอดการใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ต่อไปด้วย ด้านนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และกรมหม่อนไหม จะเป็นหน่วยงานที่มีการสั่งสมองค์ความรู้และสร้างสรรค์ผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ มาอย่างมากมาย ซึ่งหากได้มีความร่วมมือจากพันธมิตรที่มีความเข้มแข็ง จะสามารถให้การขับเคลื่อนงานวิจัยของทั้งสองหน่วยงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว และเกิดผลงานเป็นที่ประจักษ์ได้มากขึ้น โดยเมื่อปี 2547 กรมหม่อนไหม และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ดำเนินการวิจัยร่วมกันในเรื่องผงไหมซิริซิน ซึ่งผลจากความร่วมมือดังกล่าวนำไปสู่การทูลเกล้าฯ ถวายสบู่ไหมไทย เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2547 เนื่องในโอกาส สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ 12 สิงหาคม 2547 และเพื่อให้การสานต่องาน และการขับเคลื่อนงานระหว่างสองหน่วยงานให้เป็นไปอย่างรูปธรรมชัดเจนมากขึ้น กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และกรมหม่อนไหม จึงกำหนดให้มีพิธีลงนามความร่วมมือกันในครั้งนี้ขึ้น เพื่อการคิดค้น ผลิต พัฒนางานวิจัย ให้ได้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีคุณภาพมาตรฐาน ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค ตลอดจนการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการวิจัย สร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้าผลิตภัณฑ์ไหม หม่อน และมะหาด อันเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรทั้งทางตรงและทางอ้อม เกิดประโยชน์ต่อสาธารณะในวงกว้างและชัดเจน รวมไปถึงมีศักยภาพพร้อมขยายผลในเชิงพาณิชย์ ประชาชนคนไทยจะได้เข้าถึงผลิตภัณฑ์สุขภาพจากสมุนไพรที่มีคุณภาพและผ่านการวิจัยตามมาตรฐานสากล ทั้งนี้ ขอบเขตความร่วมมือในครั้งนี้ กรมหม่อนไหมและกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จะร่วมกันดำเนินการค้นคว้าทดลอง วิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์ไหม หม่อน และมะหาด เพื่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีคุณภาพมาตรฐาน ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรทั้งทางตรงและทางอ้อม และจัดให้มีคณะทำงานร่วมกันดำเนินการให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณะในวงกว้างและชัดเจน รวมถึงมีศักยภาพพร้อมทั้งขยายผลในเชิงพาณิชย์ของกรมหม่อนไหม ซึ่งโครงการ กิจกรรม หรือแผนงานใด ๆ ที่จะดำเนินการร่วมกันภายใต้ความร่วมมือฉบับนี้ จะต้องได้รับความเห็นชอบร่วมกันจากทั้งสองฝ่ายเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นกรณีไป สำหรับสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาหรือสิทธิอื่นใดของผลงาน นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ คู่มือ เอกสาร โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ข้อมูล หรือสิ่งอื่นใดที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนำมาใช้ในการดำเนินงานภายใต้บันทึกความร่วมมือฉบับนี้ย่อมเป็นของฝ่ายนั้น และทั้ง 2 ฝ่ายตกลงให้กรรมสิทธิ์ หรือสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา และ/หรือ สิทธิอื่นใดของผลงาน นวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ คู่มือ เอกสาร โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ข้อมูล หรือ สิ่งอื่นใดที่ได้สร้างสรรค์ขึ้นจากการดำเนินงานโครงการภายใต้บันทึกความร่วมมือฉบับนี้เป็นของทั้งสองฝ่ายร่วมกัน ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะทำความตกลงเรื่องสิทธิตามสัดส่วน การบริหารจัดการ และการนำผลงานวิจัยในโครงการไปใช้ประโยชน์ร่วมกัน ตลอดจนปกป้องและรักษาสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและผลงานวิจัยดังกล่าวให้เป็นไปตามข้อตกลงของแต่ละโครงการเป็นกรณีๆ ไป ส่วนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิในข้อมูลหรือผลงานวิจัยที่เกิดขึ้นจากการทำวิจัยและพัฒนาที่ได้รับการสนับสนุนจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ภายใต้ขอบเขตความร่วมมือนี้ ให้ถือเป็นกรรมสิทธิ์ร่วมกันระหว่างกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และกรมหม่อนไหม โดยการแบ่งปันผลประโยชน์ในอัตราส่วน 50 : 50 เว้นแต่จะตกลงร่วมกันเป็นอย่างอื่นเป็นลายลักษณ์อักษรในแต่ละโครงการ กิจกรรม หรือแผนงานใดๆ ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของทางราชการเป็นสำคัญ โดยมีระยะเวลาความร่วมมือ 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ลงนามเป็นต้นไป