เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 ธันวาคม 2562 ร.ต.อ.ชม ชูรัตน์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถทัวร์เสียหลักพลิกคว่ำมีผู้บาดเจ็บหลายราย บริเวณริมถนนสายนครพนม-สกลนคร ฝั่งมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองนครพนม เขตบ้านนาโพธิ์ หมู่ 12 ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม จึงประสานรถกู้ชีพ รพ.ค่ายพระยอดเมืองขวาง รถกู้ชีพ อบต.บ้านผึ้ง เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงนครพนม เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจุดป้อมยามหนองญาติและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง ร่วมตรวจสอบ ให้การช่วยเดหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยในที่เกิดเหตุ เป็นเส้นทาง 4 เลน พบรถทัวร์สีเหลืองคาดขาว ทะเบียน 10-6281 เชียงใหม่ สายเชียงใหม่-นครพนม หมายเลขข้างรถ ม.4 พิเศษ 876-3 เกิดอุบัติเหตุ สภาพชนกับเสาไฟฟ้าส่องสว่างถนน รวมถึงร้านค้าริมทาง ก่อนพลิกคว่ำตะแคงข้าง ตกคลองริมถนน สภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน
เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบให้การช่วยเหลือ ผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นคนขับ ทราบชื่อภายหลังคือ นายสุติพงษ์ พานคำ อายุ 35 ปี ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลจากแรงกระแทก กรามและปากฉีก ส่วนอีกราย คือ นายเทวัญ บุญญาสกุล อายุ 40 ปี พนักงานประจำรถบาดเจ็บที่ขาซ้าย และยังมีโค้ชประจำรถทัวร์เป็นชายไม่ทราบชื่อได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันนำตัวส่งไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลนครพนม ส่วนผู้โดยสารเป็นชาย 1 คน ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด หลังเกิดเหตุ ได้ประสานให้ญาติมารับกลับบ้าน สำหรับแม่ค้าภายในร้านค้าริมทาง โชคดีวิ่งหนีออกจากร้านทัน แต่สภาพร้านพังเสียหาย
เบื้องต้นจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ทั้งพนักงานประจำรถ และชาวบ้านที่พบเห็นเหตุการณ์ ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะรถทัวร์ ดังกล่าว ขับมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองนครพนม หลังเดินทางมาจากทางภาคเหนือ จนกระทั่งถึงที่เกิดเหตุ รถทัวร์ได้เสียหลัก พุ่งเข้าชนร้านค้าริมทาง ที่ชาวบ้าน เปิดขายของ เครื่องใช้ในครัวเรือน และ ข้าวสาร ข้าวเปลือก จนกระทั่งร้านค้าพังเสียหายทั้งหมด โชคดี เจ้าของร้าน คือ นางดาว กันหามี อายุ 41 ปี สังเกตเห็น รถทัวร์เสียหลักพุ่งเข้ามายังร้าน จึงวิ่งหนีเอาชีวิตรอดทันหวิดหวิด ส่วนคนขับ ได้รรับบาดเจ็บ รวมถึงพนักงานประจำรถทัวร์อีก 2 คน นอกจากนี้ผู้โดยสารอีก 1 คน ปลอดภัย ไม่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งขณะเกิดอุบัติเหตุโชคดีรถทัวร์ดังกล่าว มีผู้โดยสารเพียงคนเดียว เนื่องจากผู้โดยสานส่วนใหญ่ ที่เดินทางมากับรถ ประมาณ 20 ที่นั่ง ได้ลงปลายทางที่ จ.อุดรธานี ก่อนที่รถทัวร์จะเดินทางมุ่งหน้ามาที่ จ.นครพนม และเกิดอุบัติเหตุขึ้น ส่วนสาเหตุคาดว่าจะมาจากคนขับหลับใน อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ จะได้ มีการตรวจสอบ เก็บหลักฐาน และสอบสวนโดยละเอียดถึงต้นเหตุ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และเพิ่มมาตรการเข้มในการดูแลป้องกันอุบัติเหตุ ไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำอีก เนื่องจากใกล้ช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่ต้องมีการดูแลเข้มงวดในการเดินทาง ของประชาชน นักท่องเที่ยว พร้อมกำชับให้ รถโดยสารประจำทาง รวมถึงผู้สัญจรไปมา เข้มงวดตรวจสอบทั้งสภาพคนขับรถ รวมถึงตรวจสอบสภาพรถก่อนเดินทาง ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ
เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบให้การช่วยเหลือ ผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นคนขับ ทราบชื่อภายหลังคือ นายสุติพงษ์ พานคำ อายุ 35 ปี ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลจากแรงกระแทก กรามและปากฉีก ส่วนอีกราย คือ นายเทวัญ บุญญาสกุล อายุ 40 ปี พนักงานประจำรถบาดเจ็บที่ขาซ้าย และยังมีโค้ชประจำรถทัวร์เป็นชายไม่ทราบชื่อได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันนำตัวส่งไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาลนครพนม ส่วนผู้โดยสารเป็นชาย 1 คน ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด หลังเกิดเหตุ ได้ประสานให้ญาติมารับกลับบ้าน สำหรับแม่ค้าภายในร้านค้าริมทาง โชคดีวิ่งหนีออกจากร้านทัน แต่สภาพร้านพังเสียหาย
เบื้องต้นจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ทั้งพนักงานประจำรถ และชาวบ้านที่พบเห็นเหตุการณ์ ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะรถทัวร์ ดังกล่าว ขับมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองนครพนม หลังเดินทางมาจากทางภาคเหนือ จนกระทั่งถึงที่เกิดเหตุ รถทัวร์ได้เสียหลัก พุ่งเข้าชนร้านค้าริมทาง ที่ชาวบ้าน เปิดขายของ เครื่องใช้ในครัวเรือน และ ข้าวสาร ข้าวเปลือก จนกระทั่งร้านค้าพังเสียหายทั้งหมด โชคดี เจ้าของร้าน คือ นางดาว กันหามี อายุ 41 ปี สังเกตเห็น รถทัวร์เสียหลักพุ่งเข้ามายังร้าน จึงวิ่งหนีเอาชีวิตรอดทันหวิดหวิด ส่วนคนขับ ได้รรับบาดเจ็บ รวมถึงพนักงานประจำรถทัวร์อีก 2 คน นอกจากนี้ผู้โดยสารอีก 1 คน ปลอดภัย ไม่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งขณะเกิดอุบัติเหตุโชคดีรถทัวร์ดังกล่าว มีผู้โดยสารเพียงคนเดียว เนื่องจากผู้โดยสานส่วนใหญ่ ที่เดินทางมากับรถ ประมาณ 20 ที่นั่ง ได้ลงปลายทางที่ จ.อุดรธานี ก่อนที่รถทัวร์จะเดินทางมุ่งหน้ามาที่ จ.นครพนม และเกิดอุบัติเหตุขึ้น ส่วนสาเหตุคาดว่าจะมาจากคนขับหลับใน อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ จะได้ มีการตรวจสอบ เก็บหลักฐาน และสอบสวนโดยละเอียดถึงต้นเหตุ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และเพิ่มมาตรการเข้มในการดูแลป้องกันอุบัติเหตุ ไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำอีก เนื่องจากใกล้ช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่ต้องมีการดูแลเข้มงวดในการเดินทาง ของประชาชน นักท่องเที่ยว พร้อมกำชับให้ รถโดยสารประจำทาง รวมถึงผู้สัญจรไปมา เข้มงวดตรวจสอบทั้งสภาพคนขับรถ รวมถึงตรวจสอบสภาพรถก่อนเดินทาง ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ