เครื่องดื่ม 3 ชนิดยอดฮิต ต่อไปนี้คือ ชา กาแฟ และน้ำอัดลม ประกอบด้วย สารกาเฟอีน ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ร่างกายเสพติดได้ กินมากเกินไปก่ออันตราย และหากยิ่งดื่่มพร้อมกัน หรือในเวลาใกล้ๆ กัน จะยิ่งเพิ่มอันตราย... โดย Oryor.com ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ระบุ หลายคนชอบดื่มชา กาแฟ หรือบางคนต้องทำงานจนดึก เลยมีความคิดที่ว่า ต้องดื่มชา กาแฟ เพื่อไม่ให้ง่วง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มน้ำอัดลมนั้น ล้วนแล้วแต่มีกาเฟอีนเป็นส่วนประกอบ โดยในชา มีปริมาณกาเฟอีน อยู่ที่ 24 -76 มิลลิกรัมต่อ 500 มิลลิลิตร ขณะที่ กาแฟ มีปริมาณกาเฟอีน อยู่ที่ 75-212 มิลลิกรัมต่อ 180 มิลลิลิตร และน้ำอัดลม มีกาเฟอีน อยู่ที่ 38-46 มิลลิกรัมต่อ 365 มิลลิลิตร ทั้งนี้ ในร่างกายเราไม่ควรได้รับกาเฟอีน เกินวัละ 200 มิลลิกรัม โดยฤทธิ์ของกาเฟอีน จะไปกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้รู้สึกตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า แต่หากร่างกายได้รับปริมาณกาเฟอีนที่มากเกินไป (เกินวันละ 400 มิลลิกรัม) ก็จะส่งผลเสียต่อร่างกาย เกิดภาวะที่เรียกว่า “ภาวะพิษกาเฟอีน” ระบบประสาทส่วนกลางถูกกระตุ้นมากเกินไป มีอาการกระสับกระส่าย นอนไม่หลับ สับสน หัวใจเต้นแรงและเร็ว ไม่สามารถควบคุมการปัสสาวะได้ ปวดท้องไม่สบายท้อง และหากได้รับในปริมาณที่สูงมาก อาจถึงแก่ชีวิตได้ โดยความไวต่อกาเฟอีน อาการที่แสดงออก จะแตกต่างกันไปในแต่ละคน ดังนั้น จึงควรดื่มเครื่องดื่มชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีนเป็นส่วนประกอบในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากจนเกินไปจนส่งผลเสียต่อร่างกาย โดยหลีกเลี่ยงการดื่มพร้อมกัน หรือในระยะเวลาที่ใกล้ๆ กัน