สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA โพสต์เฟซบุ๊กระบุ “จากพื้นดินสูงขึ้นไป 822 กิโลเมตร ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรดวงแรกของคนไทยโคจรอยู่ มีชื่อว่า “ไทยโชต”
ได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีความหมายว่า
“ดาวเทียมที่ทำให้ประเทศไทยรุ่งเรือง”
นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้
และสะท้อนว่าทรงทอดพระเนตรเห็นภารกิจอันสำคัญยิ่ง ของดาวเทียมสำรวจทรัพยากร ดวงนี้
ทุก ๆ 101.4 นาที ไทยโชตจะโคจรรอบโลก ครบ 1 รอบ เร็วเท่ากับ 6.6 กิโลเมตรต่อวินาทีเมื่อเทียบกับพื้นโลก
คอยบันทึกข้อมูลทุกพื้นผิวทั่วโลกที่โคจรผ่านทั้งแบบสีและขาวดำ
ต้องใช้แหล่งพลังงานดวงอาทิตย์ และไม่สามารถถ่ายภาพได้ในเวลากลางคืน
ไทยโชต คอย “ถ่ายภาพ” เมืองไทยและประเทศต่างๆ ทั่วโลกจากอวกาศ ส่งกลับมาที่สถานีควบคุมและรับสัญญาณดาวเทียมที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดย GISTDA จะเป็นผู้ทำการวิเคราะห์และแปลภาพ ซึ่งทำให้เราได้ข้อมูลว่า พื้นผิวโลกแต่ละจุดมีองค์ประกอบและการใช้งานแตกต่างกันอย่างไร เช่น พื้นที่ป่าไม้ พื้นที่การเกษตร ถนนหนทาง อาคารบ้านเรือน แหล่งน้ำ เป็นต้น
โดยข้อมูลทั้งหมดจะใช้สนับสนุนการตัดสินใจเชิงพื้นที่ให้กับรัฐบาลและหน่วยงานต่าง ๆ ได้นำข้อมูลไปใช้เพื่อแก้ปัญหา และวางแผนพัฒนาประเทศในทุกด้าน ยกตัวอย่างเช่น การวางแผนจัดสรรพื้นที่เพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ การทำเกษตรโซนนิ่ง การบริหารจัดการภัยพิบัติให้เป็นระบบ ระบบคมนาคม การจัดสรรพื้นที่เศรษฐกิจ การบริหารจัดการทรัพยากรชายฝั่ง การวางผังเมือง และการใช้ประโยชน์จากที่ดิน
ข้อมูลที่ได้จากเทคโนโลยีอวกาศนี้ เราเรียกว่า ภูมิสารสนเทศ แปลว่า ข้อมูลเกี่ยวกับแผ่นดิน
ทั้งรูปสัณฐาน ทรัพยากรบนดิน ในดิน ในทะเล และในชั้นบรรยากาศ
โดยข้อมูลดังกล่าว จะถูกนำมาสร้างเป็นแผนที่ในแบบต่างๆ และเรายังเก็บข้อมูลมากมายไว้เป็นสถิติเพื่อไว้ใช้ศึกษาต่อไปได้”