วันที่ 7 ธันวาคม 2562 ณ บริเวณสนามกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ตำบลสามพร้าว อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานเปิดงานประกวดควายสวยงามครั้งที่ 2 ประจำปี 2562 หนึ่งในกิจกรรมงานประจำปีทุ่งศรีเมืองจังหวัดอุดรธานี โดยมี นายวิเชียร ขาวขำ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี กล่าวรายงาน มี นายวันชัย จันทร์พร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ,นายกองเอกปราโมทย์ ธัญพืช รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ,นายทศพรศรีศักดิ์ นายกสมาคมอนุรักษ์และพัฒนาควายไทย ,นายสมเกียรติ สุขธนะ รองนายก อบจ.อุดรธานี พร้อมด้วยสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ,ดร.ยุทธภัณฑ์ ปักกุลนันท์ ที่ปรึกษาสมาคมอนุรักษ์และพัฒนาควายไทย และประธานเครือข่ายประชารัฐแห่งประเทศไทย ร่วมในพิธี
สำหรับงานประกวดควายสวยงามครั้งที่ 2 ประจำปี 2562 ได้รับความสนใจจากพี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงควายจากทั่วประเทศ นำควายเข้าร่วมประกวดจำนวนกว่า 200 ตัวมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมชมจำนวนมาก โดยมีควายพ่อพันธุ์ ราคาสูงที่นำมาร่วมงานรวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ส่งผลให้เกิดการขับเคลื่อน ต่อเศรษฐกิจของจังหวัดอุดรธานี ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้จะมีการขยายผล ไปถึงพี่น้องเกษตรกรทั่วภูมิภาคของประเทศต่อไป
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่ารู้สึกยินดี และภูมิใจที่จังหวัดอุดรธานีได้เป็นเจ้าภาพในการจัดการประกวดควายสวยงาม แล้วจะต่อยอดผลักดันให้จังหวัดอุดรธานีเป็นสนามประกวดควายสวยงามมาตรฐานระดับประเทศและระดับโลกต่อไป ซึ่งคาดว่า ปีหน้าจะจัดการประกวดให้ยิ่งใหญ่ ขึ้นไปอีก และตนขอขอบคุณพี่น้องเกษตรกรที่นำควายเข้ามาร่วมงานประกวดในครั้งนี้จากทั่วประเทศ ทางจังหวัดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การประกวดควายครั้งนี้ จะต่อยอดสืบสานตำนาน ควายไทยโบราณ 3,000 ปีบ้านเชียงอุดรธานีซึ่งมีการขุดค้นพบโครงกระดูก ที่ได้รับการรับรองจากกรมศิลปากรว่าเป็นโครงกระดูกควายที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยต่อไป
ด้าน นายวิเชียร ขาวขำ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่าจังหวัด อุดรธานีพร้อมจะเป็นศูนย์กลาง และเมืองหลวงของควายไทย และจังหวัดอุดรธานี จะจัดให้มีการประกวดควายสวยงามครั้งต่อไปในปี 2563 ณ บริเวณลานทุ่งศรีเมืองในงานประจำปีทุ่งศรีเมืองประจำปี 2563 อีกด้วย โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานีจะเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดงานประกวดครั้งต่อไปตลอดจนจะทำนิทรรศการมีชีวิตวิถีคนวิถีควายให้ยิ่งใหญ่ อีกครั้ง จะขยายความร่วมมือไปยังพี่น้องในจังหวัดอุดรธานีให้เกิดเป็นหมู่บ้านควาย สืบสานและอนุรักษ์ ควายด่อน ควายเขายาว ควายแคระ ตลอดจนควายใหญ่ และเชื่อว่าจังหวัดอุดรมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางที่จะอนุรักษ์และพัฒนาควายของประเทศได้อย่างแน่นอน
ดร.ยุทธภัณฑ์ ปักกุลนันท์ ที่ปรึกษาสมาคมอนุรักษ์และพัฒนาควายไทย และประธานเครือข่ายประชารัฐแห่งประเทศไทย กล่าวว่าตนขอกราบขอบคุณจังหวัดอุดรธานีและท่านนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ที่ให้ความไว้วางใจให้ตนเป็นผู้ประสานงานในการจัดการแข่งขันการประกวดความสวยงามประจำปี 2562 ครั้งนี้ ถือว่าเป็นการจัดงานการแข่งขันการประกวดควายสวยงามที่ประสบความสำเร็จ อีกหนึ่งสนามในระดับประเทศ ได้รับความสนใจจากพี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงควายจากทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก ต้องขอขอบคุณ เครือข่ายคนรักควายจังหวัดอุดรธานี เกษตรกรผู้เลี้ยงควายในจังหวัดอุดรธานี สมาคมอนุรักษ์และพัฒนาควายไทย สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอุดรธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี และภาคีเครือข่ายคนเลี้ยงควายทั่วประเทศ ที่ให้ความร่วมมือในการจัดการแข่งขันในครั้งนี้
“จังหวัดอุดรธานีเป็นจังหวัดที่มีการขุดค้นพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณอายุกว่า 3,000 ปี โดยผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้มีนโยบายในการผลักดันโครงการสืบสานตำนานควายไทยโบราณ 3,000 ปีบ้านเชียงอุดรธานี ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการขอพระราชทานชื่อ และเชื่อว่าการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์ของชาวจังหวัดอุดรธานีที่จะต้องถูกจารึกและจดจำไว้ในความทรงจำของพี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงควายที่เข้าร่วมงานในครั้งนี้ แล้วจะถูกจารึกไว้เป็นตำนานของชาวจังหวัดอุดรธานีต่อไป คาดว่า การจัดการแข่งขันในครั้งนี้ จะสามารถนำไปต่อยอดขยายผลสู่พี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงควายในระดับหมู่บ้านตำบลอำเภอและจังหวัดตลอดจนในระดับประเทศต่อไป” ดร.ยุทธภัณฑ์ ปักกุลนันท์ ที่ปรึกษาสมาคมอนุรักษ์และพัฒนาควายไทย และประธานเครือข่ายประชารัฐแห่งประเทศไทย กล่าว
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่ารู้สึกยินดี และภูมิใจที่จังหวัดอุดรธานีได้เป็นเจ้าภาพในการจัดการประกวดควายสวยงาม แล้วจะต่อยอดผลักดันให้จังหวัดอุดรธานีเป็นสนามประกวดควายสวยงามมาตรฐานระดับประเทศและระดับโลกต่อไป ซึ่งคาดว่า ปีหน้าจะจัดการประกวดให้ยิ่งใหญ่ ขึ้นไปอีก และตนขอขอบคุณพี่น้องเกษตรกรที่นำควายเข้ามาร่วมงานประกวดในครั้งนี้จากทั่วประเทศ ทางจังหวัดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การประกวดควายครั้งนี้ จะต่อยอดสืบสานตำนาน ควายไทยโบราณ 3,000 ปีบ้านเชียงอุดรธานีซึ่งมีการขุดค้นพบโครงกระดูก ที่ได้รับการรับรองจากกรมศิลปากรว่าเป็นโครงกระดูกควายที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยต่อไป
ด้าน นายวิเชียร ขาวขำ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่าจังหวัด อุดรธานีพร้อมจะเป็นศูนย์กลาง และเมืองหลวงของควายไทย และจังหวัดอุดรธานี จะจัดให้มีการประกวดควายสวยงามครั้งต่อไปในปี 2563 ณ บริเวณลานทุ่งศรีเมืองในงานประจำปีทุ่งศรีเมืองประจำปี 2563 อีกด้วย โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานีจะเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดงานประกวดครั้งต่อไปตลอดจนจะทำนิทรรศการมีชีวิตวิถีคนวิถีควายให้ยิ่งใหญ่ อีกครั้ง จะขยายความร่วมมือไปยังพี่น้องในจังหวัดอุดรธานีให้เกิดเป็นหมู่บ้านควาย สืบสานและอนุรักษ์ ควายด่อน ควายเขายาว ควายแคระ ตลอดจนควายใหญ่ และเชื่อว่าจังหวัดอุดรมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางที่จะอนุรักษ์และพัฒนาควายของประเทศได้อย่างแน่นอน
ดร.ยุทธภัณฑ์ ปักกุลนันท์ ที่ปรึกษาสมาคมอนุรักษ์และพัฒนาควายไทย และประธานเครือข่ายประชารัฐแห่งประเทศไทย กล่าวว่าตนขอกราบขอบคุณจังหวัดอุดรธานีและท่านนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ที่ให้ความไว้วางใจให้ตนเป็นผู้ประสานงานในการจัดการแข่งขันการประกวดความสวยงามประจำปี 2562 ครั้งนี้ ถือว่าเป็นการจัดงานการแข่งขันการประกวดควายสวยงามที่ประสบความสำเร็จ อีกหนึ่งสนามในระดับประเทศ ได้รับความสนใจจากพี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงควายจากทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก ต้องขอขอบคุณ เครือข่ายคนรักควายจังหวัดอุดรธานี เกษตรกรผู้เลี้ยงควายในจังหวัดอุดรธานี สมาคมอนุรักษ์และพัฒนาควายไทย สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอุดรธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี และภาคีเครือข่ายคนเลี้ยงควายทั่วประเทศ ที่ให้ความร่วมมือในการจัดการแข่งขันในครั้งนี้
“จังหวัดอุดรธานีเป็นจังหวัดที่มีการขุดค้นพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณอายุกว่า 3,000 ปี โดยผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้มีนโยบายในการผลักดันโครงการสืบสานตำนานควายไทยโบราณ 3,000 ปีบ้านเชียงอุดรธานี ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการขอพระราชทานชื่อ และเชื่อว่าการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์ของชาวจังหวัดอุดรธานีที่จะต้องถูกจารึกและจดจำไว้ในความทรงจำของพี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงควายที่เข้าร่วมงานในครั้งนี้ แล้วจะถูกจารึกไว้เป็นตำนานของชาวจังหวัดอุดรธานีต่อไป คาดว่า การจัดการแข่งขันในครั้งนี้ จะสามารถนำไปต่อยอดขยายผลสู่พี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงควายในระดับหมู่บ้านตำบลอำเภอและจังหวัดตลอดจนในระดับประเทศต่อไป” ดร.ยุทธภัณฑ์ ปักกุลนันท์ ที่ปรึกษาสมาคมอนุรักษ์และพัฒนาควายไทย และประธานเครือข่ายประชารัฐแห่งประเทศไทย กล่าว