"เชาว์"ข้องใจทำไมตำรวจไม่จับ “ไวพจน์”ซัดรบ.ไร้ยางอายหวังเสียงในสภาคนถูกออกหมายจับ กระทุ้งนายกฯสอบข้อเท็จจริง หาคนผิด หวั่นถูกคนครหากลายเป็นสภาโจร วันที่ 7 ธ.ค.นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ Facebook Chao Meekhuad เรื่อง “กรณีพ.ต.ท.ไวพจน์คือความอัปยศของจิตสำนึกและจริยธรรมทางการเมืองของรัฐบาลลุงตู่" มีเนื้อหาว่า การปรากฏตัวของพ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรแบบไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง ทั้ง ๆ ที่เป็นรู้กันอยู่โดยทั่วไปว่าพ.ต.ท.ไวพจน์ หลบหนีไม่ไปฟังคำพิพากษาจนถูกศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับให้ไปฟังคำพิพากษาในวันที่ 15 มกราคม 2563 หมายความว่าหากพบหรือเห็นพ.ต.ทไวพจน์ ปรากฎตัว ณ ที่ใดเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจจัดการตามหมายสามารถจับกุมตัวส่งศาลได้ทันที มีการตั้งคำถามกันว่าทำไมไม่มีใครจับกุมพ.ต.ท.ไวพจน์ ขณะไปปรากฏตัวเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรทั้งๆที่สื่อทุกสำนักก็รายงานให้เห็นกันโจ่งครึ่ม คงปฏิเสธไม่ได้ว่าพ.ต.ท.ไวพจน์และพรรคพลังประชารัฐคงอาศัยขั้นตอนหรือช่องทางกฎหมายแตะถ่วงเวลาเพราะในกรณีปกติทั่วไปเมื่อศาลเมื่อศาลมีคำสั่งออกหมายจับ เจ้าหน้าที่ศาลจะพิมพ์หมายจับให้ท่านผู้พิพากษาลงนามจากนั้นจะส่งหมายจับทางไปรษณีย์ตอบรับไปยังกองบัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดที่อยู่ในเขตอำนาจตามภูมิลำเนาของผู้ที่ถูกออกหมายจับกรณีของพ.ต.ท.ไวพจน์ก็คือกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชร จากนั้นกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชรก็จะส่งหมายต่อไปยัง สภ.ทัองที่ตามทะเบียนราษฎร์ของพี่.ต.ทไวพจน์อีกทอดหนึ่ง ซึ่งกระบวนการทั้งหมดจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 1 อาทิตย์ นี่เป็นกรณีปกติ แต่ถ้าจะให้ไม่ปกติก็สามารถแตะถ่วงให้ช้าออกไปเท่าไหรีก็ได้ แต่อย่างไรก็ตามการได้มาซึ่งหมายจับมิใช่มีช่องทางนี้ข่องทางเดียวพนักงานอัยการหรือพนักงานสอบสวนในคดีสามารถที่จะขอคัดถ่ายหมายจับจากศาลเพื่อนำไปจับจำเลยได้ทันทีนับตั้งแต่ศาลได้ออกหมายจับ ดังนั้นตราบใดที่ยังไม่มีหมายจับ พ.ต.ท.ไวพจน์จึงสามารถไปปรากฏตัวในที่ใดก็ได้ จึงเชื่อว่าการที่รัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐกล้าให้พ.ต.ท.ไวพจน์เข้าประชุมเพื่อกดบัตรแสดงตนเป็นหนึ่งใน 261 คนทำให้ครบองค์ประชุมและสามารถชนะโหวตในญัตติตังกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบจากการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ได้อย่างสมใจอยาก คงจะอาศัยช่องทางนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสมเพชเป็นที่สุด การไม่มีใครจับพ.ต.ท.จึงไม่มีใครผิดในแง่ของกฎหมาย แต่ส่อให้เห็นถึงต่อมจริยธรรมและจิตสำนึกของผู้มีอำนาจที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ทำได้ทุกวิถีทางแม้กระทั่งเอาจำเลยที่ถูกศาลออกหมายจับมาเพิ่มเสียงในสภาให้กับตัวเองโดยไม่คำนึงหลักกฎหมายบ้านเมือง “จึงเรียกร้องพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่พร่ำพูดถึงเรื่องธรรมาภิบาลมาโดยตลอดทำความจริงเรื่องนี้ให้กระจ่างว่าทำไมพ.ต.ท.ไวพจน์จึงกล้ามาปรากฏตัวเข้าร่วมประชุมสภาทั้งๆที่ถูกศาลออกหมายจับ มีการแทรกแซงสั่งการให้เจ้าหน้าที่รัฐมิให้จัดการตามหมายจับของศาลหรือไม่ ทำไมพนักงานอัยการหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ไปขอคัดถ่ายหมายจับจากศาล ทั้งที่ทำได้โดยง่าย มีใครรู้เห็นเป็นใจ ใครต้องรับผิดชอบ ไม่ควรปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นจะถูกกล่าวหาได้ว่าจะสภาไทยกลายเป็นแหล่งซ่องสุมของโจรหรือสภาโจร”