ง โรงเรียนประโคนชัยพิทยาคม จ,บุรีรัมย์ ครองถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมเงินรางวัล ในงานมหกรรมดนตรี “เทิดไท้คีตราชัน” เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ประกวดวงดนตรีลูกทุ่ง คอมโบ้ พร้อมหางเครื่อง วันนี้ (6 ธ.ค.62) นายยุทธชัย พงศ์พณิช รองนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า เทศบาลเมือง(ทม.)บุรีรัมย์ ร่วมกับจังหวัดบุรีรัมย์ และการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ ได้จัดงานมหกรรมดนตรี “เทิดไท้คีตราชัน” ครั้งที่ 14 ประจำปี 2562 การประกวดวงดนตรีลูกทุ่ง (คอมโบ้) พร้อมหางเครื่อง และร้องเพลงพระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในระหว่างวันที่ 1-5 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา ณ บริเวณเวทีลานอเนกประสงค์ Buriram Castle อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อสร้างจิตสำนึกความเป็นชาติ โดยมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นจุดศูนย์รวมความสัมพันธ์ของสถาบันหลักของชาติ และการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและพระปรีชาสามารถ ด้านดนตรีของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งพระองค์ทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญาว่า “คีตราชัน” รวมทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เด็ก เยาวชนและประชาชนได้พักผ่อนหย่อนใจและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ หันมาเล่นดนตรี ไม่ไปมั่วสุมกับยาเสพติด และส่งเสริมการอนุรักษ์ดนตรี ศิลปวัฒนธรรม โดยจัดให้มีการประกวดวงดนตรีลูกทุ่ง คอมโบ้พร้อมหางเครื่อง ซึ่งในปีนี้มีโรงเรียนทั้งในและต่างจังหวัด ทั่วประเทศ สมัครเข้าร่วมประกวด 32 วง แบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภท ก มี 8 วง เป็นวงได้รับรางวัลถ้วยพระราชทาน และเป็นวงที่เคยได้รับรางวัลระดับประเทศ และประเภท ข วงทั่วไป มี 24 วง ส่วนหลักเกณฑ์สมาชิกวงที่เข้าร่วมการแข่งขันจะต้องเป็นนักเรียน นักศึกษา ที่กำลังเรียนในระดับไม่เกินมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า และจะต้องเรียนในสถานศึกษาเดียวกัน สำหรับคณะกรรมการตัดสิน ประกอบด้วย ครูประยงค์ ชื่นเย็น ศิลปินแห่งชาติ ครูแดน บุรีรัมย์ และครูชูติเดช ทองอยู่ หรือ ครูเทียม ส่วนเพลงที่ใช้ในการประกวด มีเพลงบังคับ คือ เพลงพระราชนิพนธ์ พร้อมรีวิวประกอบเพลง, เพลงจังหวะช้า และเพลงจังหวะเร็ว มีหางเครื่อง อย่างละ 1 เพลง ผลการแข่งขันประเภท ก ชนะเลิศ ได้แก่ โรงเรียนประโคนชัยพิทยาคม จ.บุรีรัมย์ รับถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมเกียรติบัตร เงินสด 130,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ โรงเรียนเทพมิตรศึกษา จ.สุราษฎร์ธานี รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ โรงเรียนเมืองพลพิทยาคม จ.ขอนแก่น รองชนะเลิศอันดับ 3 ได้แก่ โรงเรียนโรงเรียนวัดทรงธรรม จ.สมุทรปราการ รองชนะเลิศอันดับ 4 ได้แก่ โรงเรียนปักธงชัยประชานิรมิต จ.นครราชสีมา และรางวัลชมเชย มี 3 รางวัล ได้แก่ โรงเรียนเทศบาล ๔ (เพาะชำ) จ.นครราชสีมา, โรงเรียนมวกเหล็กวิทยา จ.สระบุรี และโรงเรียนปทุมวิไล จ.ปทุมธานี ส่วนประเภท ข ชนะเลิศ ได้แก่ โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์ฯ (ทป.5) จ,ปทุมธานี รับถ้วยรางวัล พร้อมเกียรติบัตร เงินสด 70,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ โรงเรียนวัดห้วยจรเข้วิทยาคม จ.นครปฐม รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ โรงเรียนชุมแพศึกษา จ.ขอนแก่น รองชนะเลิศอันดับ 3 ได้แก่ โรงเรียนขามสะแกแสง จ.นครราชสีมา และรางวัลชมเชย มี 5 รางวัล ได้แก่ โรงเรียนนาดูนประชาสรรพ์ จ.มหาสารคาม, โรงเรียนธัญบุรี จ.ปทุมธานี, โรงเรียนห้วยหินพิทยาคม จ.บุรีรัมย์, โรงเรียนเสาไห้ "วิมลวิทยานุกูล" จ.สระบุรี และโรงเรียนอุบลรัตนราชกัญญาราชวิทยาลัย จ.นครราชสีมา