มติ 244 ต่อ 5 เสียงฉลุยงดตั้ง กมธ.คำสั่งคสช.-ม.44 งดออกเสียง 5 เปิด "10 งูเห่า" ร่วมลงชื่อครบองค์ประชุมสภา วันนี้ (4 ธ.ค.62) เมื่อเวลา 17.00 น.มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่เป็นประธาน ได้เข้าสู่วาระการประชุมการตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบจากประกาศ และคำสั่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ คสช.และมาตรา 44 ต่อจากการประชุมที่ผ่านมาองค์ประชุมล่ม 2 ครั้ง ทั้งนี้นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า องค์ประชุมครบตั้งแต่เปิดประชุมแล้ว ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หากฝ่ายรัฐบาลยังดึงดันที่จะนับคะแนนใหม่ ฝ่ายค้านก็จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย จากนั้น นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวยืนยันไม่ถอนญัตติ ให้นับคะแนนใหม่ ขณะที่นายชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส. น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวยืนยันว่าถ้าไม่ถอนพรรคฝ่ายค้านก็จะไม่อยู่ในห้องประชุม ขณะที่นายนิโรธ พยายามพูดแทรกว่าเป็นการตีกิน จากนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า หากนับคะแนนใหม่อาจจะผิดข้อบังคับที่ 85 ขอให้ทบทวนอีกครั้ง และหากฝ่ายค้านแพ้การนับคะแนนจะขอใช้บังคับข้อที่ 85 บ้าง ดังนั้นไม่ควรสร้างบรรทัดฐานในสภาให้เกิดขึ้นในอนาคต ขณะที่นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การนับคะแนนใหม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 120 และเป็นการลงมติโดยเปิดเผย ตามข้อบังคับที่ 85 และขอให้ดำเนินการตามข้อบังคับต่อไป ขณะที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ยืนยันว่า การวอล์คเอาท์ของฝ่ายค้านเป็นการทำตามสิทธิ์ที่เหลืออยู่เพียงช่องทางเดียว ไม่เช่นนั้นก็จะทำให้รัฐบาลใช้ช่องทางนี้ต่อไปอีกเรื่อยๆ ด้านนพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า การนับคะแนนใหม่ต้องนำองค์ประชุมวันแรกมาดำเนินการ แต่ไม่ใช่นำคนมาเติมแล้วนับคะแนนใหม่ อย่าให้คนนอกมากดดันการทำงานของสภา จากนั้นนายสุชาติ ประธานในที่ประชุมได้ตรวจสอบองค์ประชุม ขณะที่ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ได้ทยอยเดินออกจากห้องประชุม ทั้งนี้พบว่า ปรากฎว่ามีองค์ประชุมจำนวน 259 คนถือว่าองค์ประชุมครบ สภาไม่ล่ม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการตรวจสอบพบว่ามีส.ส.ของพรรคฝ่ายค้าน ได้แสดงตนเพื่อนับเป็นองค์ประชุม จำนวน 10 คน แบ่งเป็น พรรคเพื่อไทย 3 คน ได้แก่ นายขจิต ชัยนิคม ส.ส. อุดรธานี , น.ส.พรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี, นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม. พรรคอนาคตใหม่ 2 คน ได้แก่ พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรีและนายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรีขณะที่พรรคเศรษฐกิจใหม่ 4 คน ได้แก่ นายภาสกร เงินเจริญกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นางมารศรี ขจรเรืองโรจน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ, นายสุภดิช อากาศฤกษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ พรรคประชาชาติ 1 คนได้แก่ นายอนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี จากนั้นเวลา 18.15 น.ได้มีการนับคะแนนใหม่ เพื่อพิจารณาให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบจากประกาศ และคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ คสช.และมาตรา 44 ด้วยวิธีการเปิดเผย โดยการขานชื่อทีละคนทั้ง 498 คน ปรากฎว่าไม่เห็นด้วยกับการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาคำสั่งคสช.และมาตรา 44 ด้วยคะแนน 244 ต่อ 5 งดออกเสียง 6