พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ เปิดมหกรรม “ภูมิพลังแผ่นดิน” อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อยกย่องสดุดีพระเกียรติคุณและเผยแพร่พระราชกรณียกิจ ด้านการอนุรักษ์และพัฒนาดินของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้านกระทรวงเกษตรฯ ประกาศพร้อมยึดแนวทางพระราชดำริเดินหน้าขับเคลื่อนพัฒนา ฟื้นฟู อนุรักษ์ทรัพยากรดินภาคเกษตรทั่วประเทศสู่ความยั่งยืน เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานมหกรรม “ภูมิพลังแผ่นดิน" เพื่อน้อมรำลึกถึงพระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้านการจัดการดิน เนื่องในวันดินโลก 5 ธันวาคม ซึ่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-8 ธันวาคม 2562 พร้อมมอบประกาศเกียรติคุณให้ศูนย์เครือข่ายและศูนย์เรียนรู้เครือข่าย พกฉ. ที่สนับสนุนการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระอัจฉริยภาพด้านการพัฒนาและอนุรักษ์ดินและเปิดอบรมวิชาแผ่นดินกว่า 30 วิชาแก่ประชาชนที่เข้ามาร่วมงานฟรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี และผู้แทนหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ณ พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นายอลงกรณ์ กล่าวว่า เพื่อน้อมรำลึกถึงพระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรด้านการจัดการดิน เนื่องในวันดินโลก 5 ธันวาคม พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ ได้จัดงานมหกรรม “ภูมิพลังแผ่นดิน” ขึ้นระหว่างวันที่ 4-8 ธันวาคม 2562 นี้ เพื่อเผยแพร่และถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเกษตรตามแนวพระราชดำริ และพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยแก่สาธารณชน ทั้งนี้ เป็นที่ทราบตลอดระยะ 70 ปีที่พระองค์ครองราชย์ ทรงเป็นนักพัฒนาและมีพระอัจฉริยภาพอันล้ำเลิศ ตลอดจนพระราชกรณียกิจอันหลากหลายด้านการพัฒนาดินและการอนุรักษ์ดินและน้ำ ส่งผลให้การพัฒนาดิน การอนุรักษ์ดินและน้ำและการปรับปรุงดินเสื่อมโทรมและดินที่มีปัญหาดำเนินไปในทิศทางที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่เกษตรกรไทยและวงวิชาการปฐพีวิทยาของประเทศ ซึ่งกระทรวงเกษตรฯพร้อมขับเคลื่อนแนวทางดังกล่าวให้เป็นรูปธรรม โดยร่วมศึกษาวิจัยเพื่อฟื้นฟู บูรณะ พัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรดินและน้ำตามแนวพระราชดำริอย่างเข้มแข็ง เพื่อฟื้นฟูและอนุรักษ์ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรดินและน้ำของชาติเป็นรากฐานที่เข้มแข็งและยั่งยืนในอนาคต นอกจากพระอัจฉริยภาพของพระองค์จะสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยแล้ว ยังได้รับการยกย่องแผ่ไพศาลไปทั่วโลกอีกด้วย แม้แต่สหภาพวิทยาศาสตร์ทางดินนานาชาติหรือ IUSS (International Union of Soil Science) ยังประจักษ์ในพระปรีชาสามารถและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ทรงศึกษาค้นคว้าวิธีการจัดการดินและแก้ไขปัญหาทรัพยากรดินเพื่อให้เกษตรกรอยู่ดีกินดี จึงมีแนวความคิดให้มี “วันดินโลก”ขึ้น เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการแสดงออกถึงความตระหนักในบทบาทอันสำคัญยิ่งของทรัพยากรดินที่มีต่อสิ่งมีชีวิต และร่วมกันดูแลรักษาเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน โดยในวันที่ 16 เมษายน 2555 ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ศ.เกียรติคุณ ดร.สตีเฟน นอร์ตคลิฟฟ์ กรรมการบริหารและอดีตเลขาธิการ IUSS เข้าเฝ้าทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล นักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรม (Humanitarian Soil Scientist) เป็นพระองค์แรกของโลก และพร้อมกันนี้ ได้ขอพระราชทานให้วันที่ 5 ธันวาคม เป็นวันดินโลก (World Soil Day) อีกด้วย จากนั้นทุกวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี ประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติกว่า 200 ประเทศ จะร่วมกันจัดแสดงนิทรรศการและจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองเนื่องใน 5 ธันวาคม วันดินโลกพร้อมกันทุกประเทศ เพื่อเชิดชูและเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 สำหรับประเทศไทยได้จัดวันดินโลกมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ ปี 2555 โดยในปี 2561 มีการจัดงานวันดินโลกอย่างกว้างขวางภายใต้หัวข้อ Be the Solution to Soil Pollution ร่วมคิดร่วมทำแต่วันนี้เพื่อปฐพีไร้มลพิษ และเป็นปีที่ 1 ซึ่งได้จัดขึ้นที่พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ กระทรวงเกษตรฯ ได้เสนอรางวัล King Bhumibol World Soil Day Award สำหรับมอบให้แก่ประเทศ องค์กร หรือบุคคล ที่มีการจัดงานวันดินโลก 5 ธันวาคม ที่สามารถสร้างการรับรู้เรื่องวันดินโลกอย่างกว้างขวาง ก่อให้เกิดความตระหนักถึงความสำคัญของดินในทุกๆ ภาคส่วน การจัดงานวันดินโลก ปี 2562 FAO กำหนดหัวข้อ Stop Soil Erosion Save our Future ปกป้องอนาคต ลดการชะล้างดิน เพื่อสร้างการรับรู้ถึงความสำคัญของการอนุรักษ์หน้าดินให้คงความอุดมสมบูรณ์ ผลิตอาหารหล่อเลี้ยงทุกชีวิตได้อย่างยั่งยืน ด้านนายสหภูมิ ภูมิธฤติรัฐ ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กล่าวถึงกิจกรรมเพิ่มเติมว่า สำหรับกิจกรรมที่น่าสนใจประกอบด้วย นิทรรศการของขวัญจากดิน จัดแสดงเส้นทางการเรียนรู้ตามสายธารน้ำที่หลั่งไหลจากภูเขาอันอุดมสมบูรณ์ผ่านแนวคิด ดินให้ชีวิต(รักษ์ดิน น้ำ ป่า รักทรัพยากรแห่งชีวิต) ดินให้อาหาร (สร้างดินอุดม อาหารดีสม ไร่ นา สวน) และดินให้วิถี (บูชาพระแม่ธรณี วิถี ประเพณี วัฒนธรรม) นิทรรศการพิเศษจากภาคีความร่วมมือ เช่น ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เพชรบุรี ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ฉะเชิงเทรา สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) จ.เชียงใหม่ สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 1 ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านของพ่อ นิทรรศการหญ้าแฝกพืชมหัศจรรย์ นิทรรศการดินของพ่อ นอกจากนี้ ยังมีถ่ายทอดความรู้วิชาของแผ่นดินและการอบรมเชิงปฏิบัติการกว่า 30 วิชา จากปราชญ์เกษตรทั่วประเทศ พร้อมกิจกรรมและนิทรรศการพิเศษบริเวณบ้านเรือนไทย 4 ภาค นำเสนอนิทรรศการดินดล ดลบันดาลชีวิต และกิจกรรมพิเศษมากมายให้ทุกท่านได้ร่วมเรียนรู้ อาทิ เปิดเข้าชมนิทรรศการทั้ง 5 พิพิธภัณฑ์ เพาะแจกแลกเปลี่ยนพันธุ์ไม้ กิจกรรมภาพพิมพ์ ประคบทอง เกมงานวัดย้อนยุค การแสดงดนตรีจากน้องๆโรงเรียนเล็กในทุ่งกว้าง จ.บุรีรัมย์ ขอเชิญชวนคนไทยพกถุงผ้ามา ชม ช้อป สินค้าเกษตร อาหารพื้นบ้าน คาว หวานกว่า 300 บูธ พิเศษวันที่ 5 ธันวาคม 2562 เวลา 9.00 น. ร่วมกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระภิกษุสงฆ์จำนวน 89 รูปร่วมกัน เพื่อน้อมอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พ่อแห่งแผ่นดินของคนไทย พร้อมชมการแสดงดนตรีและการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย 4 ภาค และเข้าชมพิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา พร้อมภาพยนตร์แอนิเมชั่น 3 มิติ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ร่วมเรียนรู้ศาสตร์พระราชา สืบสาน รักษา ต่อยอด สืบทอดพลังแห่งความดีผู้ทรงเป็นดั่งกำลังของแผ่นดิน พลังของปวงชนชาวไทย ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรฯ จ.ปทุมธานี” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-2529-2212-13 มือถือ 087-359-7171,094-649-2333 www.wisdomking.or.th facebook : พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ และ Line ID: @wisdomkingfan ​​​