โกลเบล็ก มองตลาดหุ้นไทย Sideway Down ในกรอบ 1,565-1,595 จุด เหตุสหรัฐฯ-จีนมีแนวโน้มไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกได้ บวกต่างชาติเริ่มทยอยขายออกต่อเนื่อง เพราะใกล้วันหยุดยาวช่วง เทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ปลายปี แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบายภาครัฐ ส่วนราคาทองคำแนะนำกลยุทธ์ลงซื้อขึ้นขายในกรอบ 1,445-1,475 ดอลลาร์ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นทิศทางตลาดหุ้นไทยมีโอกาส Sideway Down เนื่องจากสถานการณ์สหรัฐ-จีนอาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกได้ก่อนสิ้นเดือนธ.ค.หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามบังคับใช้กฎหมายเพื่อสนับสนุนการเรียกร้องประชา ธิปไตยในฮ่องกง และนักลงทุนสถาบันต่างชาติมีแนวโน้มขายปิดสถานะเมื่อเข้าใกล้ช่วงเทศกาลวันหยุดยาวคริสต์มาสปลายปี ส่งผลให้คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นเคลื่อนไหวในกรอบ 1,565-1,595 จุด นอกจากนี้ยังคงต้องจับตาวันที่ 3 ธ.ค.อียูจะมีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)เดือนต.ค.สหรัฐฯเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนพ.ย.ส่วนวันที่ 4 ธ.ค.อียูเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนพ.ย.จากมาร์กิต สหรัฐฯเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ย. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนพ.ย. ดัชนีภาคบริการเดือนพ.ย.และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันที่ 5 ธ.ค. อียู เปิดเผย GDP ไตรมาส 3/2562(ประมาณการครั้งที่ 3) และยอดค้าปลีกเดือนต.ค. สหรัฐ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดุลการค้าเดือนต.ค. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนเดือนต.ค.และวันที่ 6 ธ.ค.สหรัฐฯเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค. สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนต.ค. น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กกล่าวว่า ในระยะสั้นยังไม่มีปัจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุน แม้ว่าจีนจะรายงานตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI)ภาคการผลิตและภาคบริการในเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น และดัชนีอยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัว และกระทรวงพาณิชย์รายงานดัชนี CPI เดือน พ.ย.62 ขยายตัว 0.21% จากตลาดคาด 0.3% ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ขยายตัว 0.47% ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 62 CKPI ขายตัวเฉลี่ย 0.53% และ Core CPI ขยายตัวเฉลี่ย 0.69% ยังต่ำกว่ากรอบเป้าหมายเงินเฟ้อจึงไม่กดดันการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และคาดว่าจะมีเม็ดเงินซื้อกองทุน LTF/RMF เมื่อดัชนี SET หลุดระดับ 1,600 จุดก็ตาม ทั้งนี้แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นได้ประโยชน์กรณีกรมสรรพสามิตแตะเบรกภาษีความเค็ม ชู TKN และTFMAMA และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการ "บ้านดีมีดาวน์"ที่จะเริ่มลงทะเบียน 11 ธ.ค.นี้ ชู SPALI,AP,LPN,PF,ORI และ ANAN รวมทั้งหุ้นที่แนะนำลงทุนสำหรับเดือนธ.ค.ได้แก่ JUBILE,TACC และ TNP ด้านราคาทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กกล่าวว่า ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบที่ 1,445-1,480 ดอลลาร์ โดยมีแรงซื้อรีบาวด์ค่อนข้างน้อยเนื่องจากขาดปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน อีกทั้ง SPDR มีสถานะขายติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 จากที่ก่อนหน้านี้มีสถานะซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย.มีสถานะขาย 21.71 ตัน (ต.ค. ขายออก -5.28 ตัน) คอยกดดันราคาทองคำ หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวรับ 1,445 ดอลลาร์ได้ให้ขายออก โดยปัจจัยที่น่าจับตาในสัปดาห์นี้ ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐฯ ดัชนีภาคบริการสหรัฐฯ การประชุม OPEC และยอดจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงานสหรัฐฯ แนะนำใช้กลยุทธ์ ลงซื้อขึ้นขายในกรอบ 1,445-1,475 ดอลลาร์ หรือคิดเป็น 20,730-21,200 บาทต่อบาททองคำ